ในประเทศไทยนั้น มีความหลากหลายทางภาษาที่น่าทึ่ง ไม่เพียงแต่จะมีภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาราชการ แต่ยังมีภาษาตระกูลอื่น ๆ ที่พูดกันในหมู่ชนกลุ่มน้อยหรือในบางพื้นที่อีกด้วย ความหลากหลายทางภาษานี้ไม่ได้มีความสำคัญแค่ในด้านการสื่อสาร แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความเชื่อของผู้คนในแต่ละท้องถิ่นอีกด้วย มาดูรายละเอียดของภาษาตระกูลต่าง ๆ ในประเทศไทยกันดีกว่าครับ/ค่ะ
ภาษาตระกูลไทเป็นตระกูลภาษาที่มีผู้พูดมากที่สุดในประเทศไทย คิดเป็นร้อยละ 94 ของประชากรทั่วประเทศ ภาษานี้ประกอบไปด้วย 24 กลุ่มภาษา เช่น ภาษาไทยกลาง คำเมือง ไทยโคราช ลาวอีสาน และไทใหญ่ เป็นต้น ภาษาตระกูลไทจึงเป็นภาษาที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางทั่วประเทศ และพบได้ในหลายประเทศใกล้เคียงด้วย
การใช้ภาษาตระกูลไทไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังแพร่หลายไปถึงประเทศใกล้เคียง เช่น ลาว เวียดนาม และพม่า ทำให้ภาษานี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างยิ่ง
ภาษาตระกูลออสโตรเอเชียติกมีอยู่ 22 กลุ่มภาษาหลักในประเทศไทย เช่น เขมรถิ่นไทย ขมุ กูย มอญ และญัฮกุร ภาษานี้ถือเป็นภาษาดั้งเดิมของชนพื้นเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และความสำคัญต่อการเข้าใจวิวัฒนาการของสังคมมนุษย์
ในแง่วิทยาศาสตร์ ภาษาตระกูลออสโตรเอเชียติกในประเทศไทยอยู่ในกลุ่มย่อยมอญ-เขมร และมักใช้ในชุมชนพื้นเมืองและชายแดนประเทศ
ภาษาตระกูลจีน-ทิเบตมีจำนวนกลุ่มภาษาประมาณ 11 กลุ่ม ซึ่งรวมถึง จีนฮ่อ กะเหรี่ยง ละหู่ และอะข่า กลุ่มชนที่พูดภาษาตระกูลนี้ส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศไทย
กลุ่มชนที่พูดภาษาจีน-ทิเบตเป็นอีกกลุ่มที่มีการรักษาภาษาพื้นเมืองและสืบทอดวัฒนธรรมของตนอย่างเข้มแข็ง ทำให้ภาษานี้มีคุณค่าในแง่วัฒนธรรมของชุมชนภูเขาและชายแดนของไทย
ตระกูลออสโตรเนเชียนในประเทศไทยมีเพียง 3 กลุ่มภาษา ได้แก่ มาเลย์ (มาลายู) มอเกล็น และอุรักละโวย ซึ่งพูดกันในชุมชนชายฝั่งทะเลทางภาคใต้และหมู่เกาะต่าง ๆ
ภาษาตระกูลออสโตรเนเชียนยังเป็นภาษาที่มีความสำคัญในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ทำให้ภาษาเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมหมู่เกาะและชายฝั่ง
ภาษาตระกูลม้ง-เมี่ยนหรือแม้ว-เย้าในประเทศไทยมีอยู่เพียง 2 กลุ่มหลัก คือ ม้งและเมี่ยน ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้พูดในชุมชนภูเขาทางภาคเหนือ
ภาษาตระกูลม้ง-เมี่ยนสะท้อนถึงวิถีชีวิตของชนเผ่าภาคเหนือที่ยังคงยึดมั่นในอัตลักษณ์ของตน แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในด้านสังคมและวัฒนธรรมในยุคสมัยใหม่
สุวิไล เปรมศรีรัตน์และคณะได้ศึกษาและนำเสนอการจัดลำดับชั้นของภาษาในสังคมไทย ซึ่งแสดงถึงบทบาทและสถานะของภาษาแต่ละกลุ่มในสังคม โดยมีลำดับดังนี้
คนท้องถิ่นสามารถรักษาอัตลักษณ์ของตนได้ 3. ภาษาพื้นบ้านและภาษาชนกลุ่มน้อย: แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มย่อย ได้แก่
ลำดับชั้นนี้ช่วยให้ภาษาต่าง ๆ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติในสังคมไทย ซึ่งแต่ละภาษามีบทบาทและสถานะที่แตกต่างกันไปตามลำดับความสำคัญในแต่ละพื้นที่และกลุ่มคน
ภาษาตระกูลต่าง ๆ ในประเทศไทยนับเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยในการสื่อสารระหว่างกลุ่มคนในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญในการศึกษาวิวัฒนาการของภาษาและวัฒนธรรมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การอนุรักษ์ภาษาถิ่นและชนกลุ่มน้อยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเป็นการรักษารากเหง้าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สืบทอดกันมายาวนาน หากคุณมีความสนใจหรือเรื่องราวเกี่ยวกับภาษาถิ่นและภาษาตระกูลต่าง ๆ ในประเทศไทย อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคุณในคอมเมนต์ด้านล่างนะครับ/ค่ะ!
ภาษาถิ่นของไทย. ผศ. ดร. พจนี สิริอักษรสาสน์.