อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของไทย ตั้งอยู่ในตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง ลักษณะทางภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด โดยมีที่ราบบนยอดภูกระดึงประมาณ 60 ตารางกิโลเมตรหรือกว่า 37,500 ไร่
ภูกระดึง มีระดับความสูงประมาณ 400 – 1,200 เมตร โดยจุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย ซึ่งสูงถึง 1,316 เมตร สภาพทั่วไปประกอบด้วยพรรณไม้นานาชนิด แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า และสัตว์ป่านานาพันธุ์ ทุ่งหญ้า หน้าผา ลำธาร น้ำตก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพอง ซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความสูงของภูกระดึง จึงมีบรรยากาศที่เย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ในบางปีอุณหภูมิลดต่ำถึง 0 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว จึงกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ปรารถนาจะมาสัมผัสกับความหนาวที่หาได้ยากในเมืองไทยพร้อมกับการเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งในชีวิต
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมากางเต็นท์และค้างแรมเพื่อสัมผัสกับลมหนาวและธรรมชาติ สำหรับใครที่ต้องการเข้าไปท่องเที่ยวหรือพักแรมบนยอดภูกระดึง ขอให้ติดต่อหรือสำรองที่พักล่วงหน้า ทั้งที่พักประเภทเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติ และพื้นที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่นำเต็นท์มาเอง ก่อนเดินทางได้โดยตรง เพราะในช่วงปลายฝนต้นหนาวไปจนถึงฤดูหนาวโดยเฉพาะในช่วงวันขึ้นปีใหม่ บอกเลยว่าถูกจองเต็มเกือบทั้งฤดูกาล ดังนั้น ใครไม่อยากพลาดสัมผัสบรรยากาศเย็นๆ สูดกลิ่นไอดินของธรรมชาติในช่วงฤดูหนาวนี้ อย่าลืมโทรไปติดต่อสอบถามเด็ดขาด
รถยนต์ : จากตัวเมืองเลยใช้เส้นทางหมายเลข 201 เส้นเลย – ภูกระดึง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเลย 75 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2019 อีกประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานภูกระดึง
รถโดยสาร : สามารถเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-เลย แล้วลงที่ผานกเค้า ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างชุมแพ-ภูกระดึง จากจุดนี้จะมีรถสองแถวไปอุทยานแห่งชาติภูกระดึงหรือหากใช้รถ ประจำทางเส้นทางกรุงเทพฯ-ชุมแพแล้วมาลงที่ตลาดชุมแพ ต่อรถสายชุมแพ-ผานก เค้า ไปลงที่ผานกเค้า ซึ่งจะมีรถสองแถวไปอุทยานภูกระดึง