เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นภายในวัด หลวงปู่คำตา สิริสุทโธ ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ท่าจะฝันถึงเจ้าปู่ศรีสุทโธเกือบทุกคืนโดยเจ้าปู่บอกว่าคอยดูแลปกปักรักษาภัยอันตรายต่างๆให้หลวงปู่คำตาตลอดทุกคืน โดยเฉพาะกุฏิที่หลวงปู่พักประจำอยู่นั้นท่านได้จัดที่นั่งที่นอนไว้สำหรับเจ้าปู่เป็นพิเศษ สิ่งที่น่าสังเกตหรือผิดปกติทีเกิดขึ้นในกุฏิหลังนี้ คือ เมื่อหลวงปู่คำตาออกไปทำธุระนอกวัดในเวลากลางคืนกลับมาดึกๆพระเณรที่นอนเฝ้ากุฏิเล่าให้ฟังว่า เห็นงูใหญ่มาปรากฏตัวอยู่ใกล้โต๊ะหมู่บูชาในกุฏิหลังนี้และชูคอสูงท่วมหัวแลบลิ้น น่ากลัวมาก เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วว่าเจ้าปู่คงจะมาเฝ้ากุฏิให้ลูกชาย (เจ้าปู่ศรีสุทโธเรียกหลวงปู่คำตาว่า ลูกชาย) ทำให้พระเณรเกิดความกลัวไม่อยากจะมาเฝ้ากุฏิหลังนี้
ในคืนหนึ่งระหว่างกลางพรรษา หลวงปู่คำตาได้ฝันไปว่าเจ้าปู่ศรีสุทโธได้มาที่กุฏิแล้วบอกว่าพ่อจะพ่นพิษใส่ตัวลูก เพื่อให้เกิดความขลังในตัวลูก พูดเสร็จก็พ่นพิษเป็นน้ำเปียกไปทั้งตัว เมื่อสะดุ้งตื่นขึ้นรีบลูบดูตามร่างกายนึกว่าร่างกายจะเปียกน้ำดังในฝันแต่ปกติทุกอย่าง ท่านเล่าต่อไปว่าคาถาอาคมที่ท่านใช้ผูกแขนและประพรมน้ำมนต์ให้ญาติโยมทั้งหลายนั้นได้มาจากเจ้าปู่ศรีสุทโธมาบอกในฝัน ท่านยอมรับว่าเดิมนั้นท่านเป็นคนที่มีความจำไม่เก่งเรียกได้ว่าไม่เก่งมาตั้งแต่เกิด ครั้นพอได้บวชเป็นพระในครั้งนี้ เจ้าปู่มาบอกคาถาอาคมอะไรในฝันจะจำได้แม่นยำผิดปกติ คืนหนึ่งหลวงปู่จอม ที่จำวัดอยู่ในวัดสิริสุทโธร่วมกับหลวงปู่คำตาได้ฝันไปว่าเจ้าปู่ศรีสุทโธได้นำดาบกายสิทธิ์ดูแล้วเป็นที่น่ากลัวน่าเกรงขามยิ่งนัก เดินผ่านกุฏิของหลวงปู่จอมและบอกหลวงปู่จอมว่า จะนำมาให้ลูกชาย (หมายถึงหลวงปู่คำตา) หลวงปู่จอมตื่นเช้ามืดรีบมาสอบถามหลวงปู่คำตาที่กุฏิว่ามีอะไรผิดปกติหรือได้ฝันอะไรหรือไม่ หลวงปู่คำตาก็บอกว่าคืนนั้นเป็นปกติทุกอย่างไม่ได้ฝันอะไรและไม่มีเหตุผิดปกติเกิดขึ้นแต่อย่างใด
อีกคืนหนึ่งหลวงปู่คำตาได้ฝันไปว่า เจ้าปู่ศรีสุทโธได้มาที่กุฏิแล้วบอกหลวงปู่คำตาว่า ต่อไปนี้พ่อจะมอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดในเมืองชะโนดให้ลูกดูแลและปกครองคนทั้งหมดในเมืองนี้ เสร็จแล้วก็นำเข้าไปในเมืองชะโนดนำไปดูทรัพย์สินย์ทั้งหมดที่เมืองชะโนดที่จะมอบให้ เมื่อดูทรัพย์สมบัติเสร็จแล้วก็นำขึ้นไปศาลาใหญ่หลังหนึ่งซึ่งมีคนนั่งรออยู่มากมาย เจ้าปู่จึงประกาศให้ทุกคนบนศาลาทราบว่า “นี่คือลูกชาย ต่อไปนี้ทรัพย์สินและการปกครองทั้งหมดจะมอบให้ลูกชาย ขอให้ทุกคนเชื่อฟังคำสั่ง และอยู่ในความปกครองของลูกชายตั้งแต่นี้ต่อไป” ทุกคนที่อยู่บนศาลานั้นต่างก็ยอมรับและแสดงความยินดี นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความฝันและข้อผูกพันในฝันระหว่างหลวงปู่คำตาและเจ้าปู่ศรีสุทโธ
หลวงปู่คำตาเล่าต่อไปว่า ปกตินั้นท่านจะเป็นคนอารมณ์ร้อนวู่วาม ทำอะไรไม่ค่อยเยือกเย็นแต่พอมาบวชมาอยู่วัดนี้แล้วรู้สึกเยือกเย็นอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลาทั้งๆที่น่าจะเหน็ดเหนื่อยเพราะบางวันต้องนั่งผูกแขน ประพรมน้ำมนต์ให้ญาติโยมอยู่ตลอดวันแต่ก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย
วันพุธฉันหวานแค่มื้อเดียว วันพระไม่ได้ฉันอาหารแต่ก็รู้สึกอิ่มอยู่ตลอดเวลา ท่านเองก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่แปลกอยู่เหมือกัน
เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นในวัดกล่าวคือ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม เวลาประมาณ 16:00 มีพระภิกษุ 2 รูป อายุ 68 และ 70 ปี ได้มาปักกลดอยู่ในวัดใกล้ก่อไผ่ปากทางเข้าเมืองชะโนด ขณะที่พระภิกษุทั้งสองมาถึง คนทรงที่กำลังเข้าทรงอยู่ในเมืองชะโนดก็บอกว่าให้นิมนต์พระภิกษุทั้งสองออกไปจากวัดเพราะเจ้าปู่ไม่ชอบ (พระภิกษุ 1 ใน 2 รูปนี้เคยมาปักกลดที่เดิมเมื่อปลายปีพฤศจิกายน 2530) คงจะทำอะไรไม่ดีไม่งามไว้ เจ้าปู่จึงเกิดความไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าไปบอกหรือนิมนต์พระภิกษุนั้นออกไปจากวัดตามคำทรง พอถึงรุ่งเช้าประมาณตีสี่ตีห้า ก็ปรากฏว่าพระภิกษุรูปนั้นได้ถึงแก่กรรมในทานอนหงายอยู่ห่างจากกลดราวๆห้าหกเมตร มีรอยฟกซ้ำที่คอและหน้าอกเป็นที่แปลกประหลาดและน่ากลัวยิ่งนัก