หนึ่งในวัดที่คนโคราชนับถือและหลั่งไหลกันมาอย่างไม่ขาดสาย นั่นก็คือ วัดศาลาลอย แต่เหตุใดวัดแห่งนี้จึงได้รับการเคารพนับถือและจัดเป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่คนโคราชและนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดให้ความสนใจ วันนี้ ทีมงานอีสานร้อยแปด จะมาบอกเล่าถึงที่มาที่ไปและความสำคัญของวัดศาลาลอยแห่งนี้ให้ผู้อ่านได้ถึงบางอ้อ…พร้อมแล้ว ก็ไปกันเลย
ตามประวัติความเป็นมา เชื่อกันว่าในปี 2370 ภายหลังชนะศึกเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทร์ที่ยกทัพมายังโคราช คุณหญิงโม (แม่ย่าโม) และพระยาปลัดผู้เป็นสามี ได้พากองทัพแวะพักบริเวณท่าตะโก ท่านได้สั่งให้ทหารทำแพเสี่ยงทายเป็นรูปศาลา โดยตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่า “หากแพลอยไปติดอยู่ ณ ที่แห่งใด จะสร้างวัดไว้ตรงนั้นเพื่อเป็นอนุสรณ์” ปรากฏว่าแพเสี่ยงทายได้ลอยไปติดอยู่ริมฝั่งขวาของลำตะคอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดศาลาลอยในปัจจุบันพอดี จึงได้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้น ตามที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้
เวลาต่อมา คุณหญิงโมได้ถึงแก่อสัญกรรมด้วยอายุ 81 ปี พระยาปลัดจึงได้นำอัฐิบรรจุลงในเจดีย์และนำมาไว้ที่วัดศาลาลอย วัดแห่งนี้จึงเป็นที่เคารพ สักการบูชาของชาวโคราชตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นอกจากนี้ยังมีการสร้างอนุสาวรีย์ของคุณหญิงโมขึ้น เพื่อเป็นที่ระลึกถึงวีรกรรมท้าวสุรนารีไว้ที่วัดแห่งนี้ด้วย ชาวโคราชและชาวต่างชาติที่มาสักการะอนุสาวรีย์และอัฐิของแม่ย่าโม จะนิยมบนบานขอพรให้ปกป้องคุ้มครองทั้งในเรื่องหน้าที่การงาน ความรัก โรคภัยไข้เจ็บ หากใครที่บนบานสำเร็จสมความปรารถนา ก็จะแก้บนด้วยการจ้างนักร้อง นางรำ มาร้องเพลงโคราชและรำถวาย เพราะเชื่อว่าแม่ย่าโมชื่นชอบเพลงโคราชมาก
นอกจากนี้ วัดศาลาลอยยังมีพระอุโบสถที่สร้างแบบศิลปะไทยประยุกต์อย่างงดงาม นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักถ่ายรูปอุโบสถแห่งนี้เป็นที่ระลึก โดยด้านหน้าจะเป็นภาพพุทธประวัติ ตอน มารผจญ ส่วนด้านหลังจะเป็นภาพเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากชั้นดาวดึงส์ ด้านบนสร้างด้วยกระเบื้องดินเผาจากด่านเกวียน ของขึ้นชื่อเมืองโคราช หากใครที่มีเวลาหรือมีโอกาสแวะเวียนมาที่โคราช นอกจากไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีที่ศาลากลางจังหวัดแล้ว อย่าลืมมาไหว้อัฐิแม่ย่าโมที่วัดศาลาลอยกันด้วยนะ
จากกรุงเทพฯ – นครราชสีมา ผ่านเดอะมอลล์ โคราช ขับตรงมาอย่างเดียว นับแยกไฟจนถึงแยกที่ 7 และตรงมาอีก 500 เมตร ชิดซ้ายจะมีโค้งขวา โดยวัดศาลาลอยจะอยู่ทางซ้ายมือ ขับเข้าไปได้เลย ที่จอดรถสะดวกสบายมาก
ขอขอบคุณรูปภาพจาก