ว่านศักดิ์สิทธิ์ ว่านมีอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อยไปกว่าคาถาอาคม สามารถป้องกันอันตรายภัยต่าง อยู่ยงคงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้า
ว่านมีอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ ( ว่านศักดิ์สิทธิ์ )ไม่น้อยไปกว่าคาถาอาคม สามารถป้องกันอันตรายภัยต่าง ๆ ได้ เช่น อยู่ยงคงกระพันชาตรี ใช้ของมีคม มีด หอก ง่าว จะฟันไม่เข้าเลย จะมีเพียงบาดแผลเป็นรอยขีดบนผิวหนังแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อถูกปืนยิงมาก็ปรากฎว่าได้ยินแต่เสียง ส่วนลูกปืนก็ไม่ออกมาถูกต้องร่างกาย ถูกเสื้อผ้าบ้างก็เพียงไหม้เกรียมไปเท่านั้น
ว่านบางอย่างกินเข้าไปแล้วทำให้เกิดกำลังวังชาขึ้นมาก ทำให้จิตใจห้าวหาญ สามารถต่อสู้กับศัตรูได้
ว่านบางชนิดก็มีโทษ คนธรรมดาไปถูกเข้าก็จะกลายเป็นคนง่อยคนพิการไป
ว่านบางอย่างมีพิษทำใหเสียชีวิตไปก็มี
บางอย่างก็เป็นเมตตามหานิยมแก่ท่านผู้ที่มีว่านชนิดนี้ไปก็มี
ว่านดอกทองก็จะทำให้เกิดเสนียดจัญไร ทำให้คนในบ้านเป็นดอกทองไปหมดก็มี
ว่านที่รักษาโรคได้ดีก็มี เช่น ว่านน้ำและว่านหางจรเข้ ว่านหอม ฯลฯ
ว่านบางอย่างแสดงอิทฤทธิ์ลอยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน เหมือนดาวเสด็จไปฉะนั้น
ว่านบางอย่างเรียกว่า ว่านโพลง กลางคืนก็จะออกมากินกบเขียด ในภาคอีสานจะพบบ่อย เมื่อฝนตกใหม่เป็นรูปร่างของคนเลี้ยงว่าน เดินจับกบเขียดกินตามทุ่งนา หากว่าใครยิงด้วยลูกธนู ลูกธนูก็จะไปติดอยู่กับหัวว่านนั้นในเวลารุ่งเช้าที่เราเห็น
ว่านสมุนไพรและยังเป็นไม้มงคลช่วยป้องกันอันตรายอย่างเช่น “ว่านนกคุ้ม” ที่เราได้นำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็มีสรรพคุณที่รอบด้าน
อิทฤทธิ์ดังกล่าวมามีผู้สนใจน้อยมาก ทั้งนี้เพราะขาดคนเชื่อถือ เพราะขาดผู้ชำนาญที่เคยทดลอง หรือเคยพบเห็น
โดยมากตามบ้านในชนบทมักไม่รู้จักชื่อว่าน เห็นเพื่อน ๆ เขาปลูกก็ปลูกบ้าง ลองถามดูก็ไม่ค่อยรู้ชื่อว่านและสรรพคุณของว่านมีดีอย่างไร ? อาจารย์โบราณที่ทรงวิทยาคมคาถาขลัง ได้รวบรวมว่านร้อยแปด มาทำเป็นผงเกสรไม้หอม เช่น มะลิ พิกุล บุญนาค บัวทั้ง 5 ประกอบด้วยผงอิธเจ ผงปภมัง ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงมหานิยม ผงนะหน้าทอง ผงอิติปิโส 108 ผงคัมภีร์กาฝากต่าง ๆ เช่น กาฝากดอกรัก กาฝากมะยม กาฝากต้นพุด ฯลฯ นำมาบดเข้าด้วยกัน ผสมน้ำมันตังอิ้ว เอาลงแม่พิมพ์องค์พระรูปต่าง ๆ แล้วเอาเข้าพุทธาภิเษกพร้อมกับหลวงพ่อผู้ทรงคุณวิฒิทำพิธีปลุกเสกคาถากำกับ เพื่อให้อยู่ยงคงกระพันบ้าง เพื่อเป็นเมตตามหานิยมบ้าง จึงเรียกกันว่าพระเครื่อง
การปลูกว่านจะให้ศักดิ์สิทธิ์ต้องมีเคล็ดลับในการปลูก จึงไม่เสื่อมคุณภาพโดยมากว่านาอยู่ในป่าเขาไม่มีอิทธิพลทางอิทธิฤทธิ์ ถ่าเรามาปลูกโดยไม่เอาใจใส่ปล่อยให้โรยราไปหรือปล่องทิ้งไว้เป็นปี ๆ ว่านก็จะโรยราและแตกต้นขั้นมาใหม่ไปเรื่อย ๆ ว่านนั้นก็จะหมดอิทธิฤทธิ์ลงไปทุกที หลาย ๆ ฝนเข้าก็หมดอิทธิฤทธิ์ไปเอง เพราะปรอทในต้นว่านหนีออกไปจากต้นเสียแล้ว
เพื่อให้ว่านยังคงมีอิทธิฤทธิ์ ความขวัง สรรพคุณตามตำรา จึงต้องมีเคล็ดลับ วิธีการปลูกที่เขียนเอาไว้ว่า โดยมากถือกันมาแต่โบราณ คือปลูกในวันอังคารเดือน 6 ต้องใช้ดินสะอาด อย่าให้สกปรกด้วยมูลสัตว์ต่าง ๆ เป็นดินบริเวณกลางแจ้ง ร่อนเอาแต่ดินดี ๆ ไปปลูก จะเป็นสีแดงกับสีดำก้ได้ ทางที่ดีให้เป็นดินร่วนปนดินทราย เป็นดินเผาไฟทุบให้ละเอียด ทิ้งตากน้ำค้างไว้หนึ่งคืน หรือจะเป็นอิฐเผาแล้วทุบให้ละเอียด เอาหญ้าแห้งสับเป็นฟ่อน ๆ ขนาดครึ่งนิ้ว มาผสมปนดินทราย เอาหัวว่านลง อย่ากลบให้แน่นเกินไป ให้ฝังไว้หัวโผล่ขึ้นเล็กน้อย
จะให้มีอิทธิฤทธิ์ต้องว่าคาถากำกับในเวลาจะรดน้ำ มีคาถาดังนี้
อิติปิโส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชาจรณสัมปันโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสธัมมาสารถิสัตเท เทวมนุสสานัง พุทโธ ภควาติ
ว่า 1 จบบ้าง 3 จบบ้าง 7 จบบ้าง จึงรดน้ำ ว่านต่าง ๆ ได้หมด
ถ้ารดน้ำว่านอยู่ยงคงกระพัน ว่านกันปืนก็ว่า
“สัพเพ เต อันตรายา อวมังคลา วินาสสันตุฯ”
ถ้ารดน้ำว่านมหาลาภ มหาชัยมงคล ให้ว่า 3 จบแล้วจึงรดน้ำ ให้ว่าดังนี้
“มหาลาโภ โหตุ ภวันตุ เม”
ถ้ารดน้ำว่านชัยชนะอื่น ๆ ก็ให้ว่า
“นะโม พุทธายะ”
วันอาทิตย์ 1 จบ วันจันทร์ 2 จบ วันอังคาร 3 จบ ฯลฯ ตามกำลังวัน แล้วจึงรดน้ำ
กระถางควรตั้งไว้กลางแจ้งให้ได้รับแสงแดดในตอนเช้าและบ่าย กลางวันแดดจัดควรทำร่มบังแดดไว้
การรดน้ำ ถ้าน้ำมาไปหัวจะเน่า ถ้าน้ำน้อยไปก็อับเฉา ต้องเอาใจใส่ทุกเวลารดน้ำ
ถ้าจะให้มีอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้นควรให้แผ่นทองแดงลงยันอิติปิโสแปดทิศ ซึ่งเข้าพิธีอย่างดี หรือจะเอาผงศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มาฝังไว้โคนต้นว่านที่ปลูกไว้นั้น
ให้ทำน้ำมนต์ที่เสกด้วย “สัพพาสีวิสัช ชาตินํ” พรมให้ทั่วต้นว่านและบริเวณโคนต้นรอบ ๆ เสียก่อนแล้วจึงขุด การขุดให้เลือกเอาวันอังคารในเดือน 12 หรือข้างขึ้นอ่อน ๆ ของเดือนอ้ายให้กู้ในวันพุธ
เวลาจะขุดว่านนั้น ให้เอามือตบดินตรงที่ใกล้กอว่าน ว่าคาถาเรียกไปตบไปจนกว่าจะจบคาถาเรียก คาถาเรียกนั้นมีดังนี้
“โอม ขุก ขุก กูจะปลุกพระยาว่านให้ลุกก็ลุก กูจะปลุกพระยาว่านให้ตื่นก็ตื่น พระยาว่านหนีไปที่อื่นให้แล่นมาหากูทีเน้อ มาฮอดแล้วพลันฟ้าวตื่น อมมะสะหหับคงทน ฯ ”
พอว่าคาถาเสร็จจบลงก็เสร็จพอดี เวลาเก็บไว้จะหยิบว่านไปใช้ก็ต้องใช้คาถาเรียกเสมอ ว่านจึงศักดิ์สิทธิ์
หากต้องการให้ว่านของเรามีอิทธิฤทธิ์ ว่านศักดิ์สิทธิ์ โบราณอาจารย์ท่านให้ถือฤกษ์ในการกู้ว่านหรือการปลูกว่านดังนี้
โดยมากใช้ปลูกในเดือน 6 วันอังคาร และไปกู้ว่านอีกทีเดือน 12 ในวันอังคารเช่นเดียวกัน
การปลูกต้นว่านนั้น โบราณจารย์ยังกล่าวไว้อีกว่า ก่อนจะยกหัวว่านมาปลูกให้ร้องว่า ขโมย ขโมย ขโมย 3 ครั้ง ดังนี้แล้วจึงนำหัวว่านไปปลูกในดินต่อไป
อ้างอิงข้อมูลมาจากหนังสือประเพณีอีสาน ฉบับ ส.ธรรมภักดี หน้า 601 – 604 ซึ่งได้รวบรวมตำราและประเพณีอีสานไว้อย่างครบครัน เรียบเรียงใหม่โดยทีมงานอีสานร้อยแปด