ชาวบ้านหนองซ่งแย้ลงแรงสร้างโบสถ์ไม้ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิก ที่ก่อสร้างด้วยไม้และมีหน้าจั่วประดับกระจกซึ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เริ่มจากเมื่อปี 2451 หมู่บ้านที่ตั้งโบสถ์แห่งมีชื่อว่า บ้านหนองซ่งแย้ (แปลว่าที่อยู่ของแย้) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางดงทึบ ประวัติความเป็นมาเริ่มจากที่บ้านซ่งแย้ มีชาวบ้าน 5 ครอบครัว ที่มาจากคนละทิศคนละทาง ได้อพยพเข้ามาอยู่ใหม่กับชาวบ้านที่อยู่ดั้งเดิม อยู่กันได้สักระยะหนึ่งก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นครอบครัวผีปอบ ถูกชาวบ้านกุ้มรุมทำร้ายและระดมขับไล่ออกจากหมู่บ้าน ทำให้กลุ่ม 5 ครอบครัวเดือดร้อนอับจนหนทาง จึงเดินทางไปหาบาทหลวงฝรั่งเศส “เดชาแนล” และ ออมโบรซีโอ” ที่บ้านเซซ่ง ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ให้มาช่วยขับไล่ผีปลอบที่สิงอยู่กับตนและครอบครัว ซึ่งบาทหลวงทั้งคู่ก็หาวิธีการมาช่วยขับไล่ผีปลอบให้แก่ชาวบ้านจนเหตุการณ์สงบลง ทั้ง 5 ครอบครัวจึงเข้ารีตเป็นคริสเตียนนิกายโรมันคาทอลิค ต่อมาหมู่บ้านแห่งนี้จึงกลายเป็นประชาคมชาวคริสต์ บาทหลวงทั้ง 2 จึงได้สร้างวัดหนองซ่งแย้ขึ้นมา ในปี พ.ศ. 2452 โดยใช้ชื่ออย่างเป็นทางการในภาษาลาตินว่า “วัดอัครเทวดามิคาแอล” ซึ่งเป็นชื่อของนักบุญคนสำคัญ โดยมีบาทหลวงเดชาแนลเป็นอธิการโบสถ์คนแรก อาคารโบสถ์คริสต์วัดซ่งแย้ ในระยะแรกนั้นสร้างเป็นกระต๊อบเล็กๆ ฝาขัดแตะให้บาทหลวงทั้ง 2 อยู่ พร้อมกับใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาควบคู่ไปในตัว จากโบสถ์ไม้หลังแรกเมื่อ 100 ปี ได้มีการปรับปรุงพัฒนาเรื่อยมาเนื่องจากอายุการใช้งานของไม้ย่อมผุพังไปตามอายุ โบสถ์คริสไม้หลังใหม่ เริ่มก่อสร้างในปี 2490 ได้ปรับปรุงให้มีช่องแสงประดับกระจกสีสวยงาม จนเสร็จสมบูรณ์และกระทำพิธีเสกวัดเมื่อปี พ.ศ. 2497 จนปัจจุบันยังคงมีความโดดเด่นสวยงามแปลกตา เนื่องจากเป็นโบสถ์คริสต์ที่สร้างด้วยไม้ล้วนๆ ด้วยความที่โบสถ์วัดซ่งแย้มีความน่าสนใจหลายประการ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงจัดให้โบสถ์วัดซ่งแย้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว “UNSEEN in THAILAND”