หมู่บ้านแห่งนี้ถือกำเนิดจากพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมอบพื้นที่ทำกินให้ราษฎร จึงมีการอพยพจากหลายถิ่นฐานมาจับจองพื้นที่ดังกล่าว เกิดเป็นที่มาของชื่อ “หมู่บ้านรวมไทย” หมู่บ้านรวมไทย เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสเสน่ห์หลากแง่มุม เริ่มด้วยการชมธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ที่จุดชมวิว ชิมน้ำสับปะรดสดจากไร่ เพราะอาชีพหลักของชาวบ้านคือการทำไร่สับปะรดนั่นเอง สามารถเยี่ยมชมและเรียนรู้งานหัตถกรรมที่กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากใบสัปปะรด ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกิดจากการนำใบสับปะรดเหลือใช้มาแปรรูป โดยผ่านกระบวนการต่างๆ ทำเป็นกระดาษใยสับปะรด นอกจากนี้ยังทำเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น พัด กล่องทิชชู่ กล่องของขวัญ โปสการ์ด เป็นต้น จากนั้นเชิญรับประทานอาหารพื้นบ้านท่ามกลางบรรยากาศอุโมงค์ต้นไม้ (ต้นจามจุรี) กับเมนูอาหารหลัก “แกงสับปะรดใส่หอยแมงภู่” เรียกได้ว่าเป็นเมนูประจำจังหวัดเลยก็ว่าได้ และยังมีเมนูอื่นๆ เช่น ปลานิลทอด ต้มหน่อไม้ ยอดฟักข้าวชุบไข่ทอด น้ำพริกกะปิ และผัดผักสดจากไร่ อิ่มหนำสำราญแล้วไปดูกรรมวิธีทำชาใบหม่อนที่ “กลุ่มหม่อนไหม และใบชา” พร้อมสัมผัสไฮไลท์เด็ด “กิจกรรมชมช้าง” ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี โดยนักท่องเที่ยวจะได้เห็นทั้ง ช้าง กระทิง เก้ง และกวาง ซึ่งชาวบ้านที่นี่อาศัยอยู่ร่วมกับช้างกว่า 200 ตัว เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่ใหญ่มหึมาเลยทีเดียว
มาแห่งเดียวแต่ได้สัมผัสวิถีพื้นบ้านหลากหลายใกล้กรุงของชาวกุยบุรี
ดูช้าง กระทิง ไร่สัปปะรด การทำกระดาษจากใบสัปปะรด การผลิตชาใบหม่อน รับประทานเมนูพื้นบ้านวัตถุดิบสดจากไร่ อร่อยจากสวน
ชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี