การปลูกข้าวโพดฝักอ่อน คือ ข้าวโพดที่ปลูกนำเอาฝักอ่อนหรือฝักที่ยังไม่มีเมล็ดมาบริโภคในรูปของฝัก (ภาษาอังกฤษเรียกว่า baby corn) ส่วนใหญ่การปลูกข้าวโพดในปัจจุบัน ได้แก่ การปลูกข้าวโพดฝักอ่อน เนื่องจากข้าวโพดฝักอ่อนถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่ตลาดต้องการสูง นอกจากทานเป็นผัก
พื้นที่ปลูกข้าวโพดฝักอ่อน ควรอยู่ในเขตชลประทานหรือใกล้แหล่งน้ำสะอาดที่สามารถระบายน้ำได้ดี เพราะข้าวโพดฝักอ่อนทุกชนิดสามารถปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด โดยเฉพาะดินที่มีการระบายน้ำได้ดี
ควรเป็นดินที่มีความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ระหว่าง 6.5 – 7.0 มีอินทรีย์วัตถุสูงกว่า 1.5 % มีฟอสฟอรัสไม่ต่ำกว่า 20 ส่วนในล้าน มีโพแทสเซียมไม่ต่ำกว่า 100 ส่วนในล้านส่วน
โดยทั่วไปข้าวโพดเจริญเติบโตได้ดีในอุณภูมิ 10 – 40 องศาเซลเซียล แต่อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดคือ 27 องศาเซลเซียล หากอุณหภูมิกลางวันสูงและกลางคืนต่ำ มีแสงแดดจัด การออกดอกจะเร็วขึ้น ถ้าปลูกในฤดูที่มีความยาวของกลางวันน้อยกว่า 12 ชั่วโมง
ควรเป็นแหล่งน้ำสะอาดและต้องมีที่ระบายน้ำได้ดี
ไถดะ 1 ครั้ง ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ แล้วทำการไถแปร หรือ พรวนดินให้ร่วนอีก 1-2 ครั้ง จากนั้นก็ทำร่องหรือแถวปลูก
นิยมปลูกกันในฤดูฝน ส่วนฤดูอื่นๆ ควรปลูกในแหล่งที่มีระบบการชลประทานที่ดี หรือมีแหล่งน้ำสมบูรณ์
จะต้องทำการถอนหญ้าพร้อมกับการกลบปุ๋ยและพูนโคนต้น เพื่อป้องกันไม่ให้โค่นล้ม และมีการฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงกลุ่มไดโคฟอล เพื่อกำจัดหนอนเจาะต้น
ข้าวโพดฝักอ่อน มีการสะสมธาตุอาหารหลักในส่วนของฝักอ่อนมากกว่าส่วนอื่นๆ ความต้องการธาตุอาหารจึงมีผลอย่างยิ่งต่อความสมบูรณ์ของฝัก ในดินที่มีความสมบูรณ์ต่ำควรใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ 1-2 ตันต่อไร่ 75 – 100 กิโลกรัมต่อไร่ รองก้นหลุมตอนปลูก และปุ๋ยไนดตรเจนอัตรา 10 – 15 กิโลกรัมต่อไร่ โรยข้างแถวเมื่อมีอายุ 25 – 30 วัน
ส่วนในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ให้ใช้ไนโตรเจนอย่างเดียวอัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้งในขั้นเตรียมดิน และเมื่ออายุ 25 วัน ควรใส่ 1 – 2 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดินเป็นสำคัญ
ข้าวโพดฝักอ่อนเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก ดังนั้น ควรให้น้ำทุกวัน แต่ครั้งละไม่มาก ทำเช่นเดียวกับการให้น้ำผัก และเว้นระยะห่างขึ้น เมื่อต้นใหญ่สมบูรณ์ดีแล้ว
เมื่อข้าวโพดฝักอ่อนเจริญเติบโต ประมาณ 38-45 วัน จะเกิดช่อดอกตัวผู้ ซึ่งอยู่ระหว่างใบธง เกษตรกรก็จะดึงช่อดอกตัวผู้ออก ก่อนที่ช่อดอกจะคลี่บาน หลังจากดึงออก จะทำให้ฝักอ่อนที่เกิดจากช่อดอกตัวเมีย มีการเจริญเติบโตดี
การไว้จำนวนฝักอ่อนจะเก็บได้ 1-3 ต่อต้น โดยฝักที่สมบูรณ์จะอยู่ที่ฝักส่วนบนสุด และฝักที่ 2 และ 3 มักจะไม่สมบูรณ์ แต่หากดึงช่อดอกตัวผู้ได้เร็ว จะทำให้ฝักอ่อนเจริญเติบโตดีทั้ง 3 ฝัก
พันธุ์ลูกผสมจะให้ผลผลิตสูงกว่า มีราคาดีและเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า
การปลูกข้าวโพดฝักอ่อนเพื่อส่งออกนั้น สิ่งสำคัญคือ คุณภาพ และปริมาณผลผลิต โดยขนาดของข้าวโพดฝักอ่อนจะแบ่งเป็น 3 เกรดคือ ฝักที่มีความยาว 9 – 13 เซนติเมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 – 1.8 เซนติเมตร (L), ฝักที่มีความยาว 7 – 9 เซนติเมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.2 – 1.5 เซนติเมตร (M), ฝักที่มีความยาว 4 – 7 เซนติเมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.0 – 1.2 เซนติเมตร (S) ซึ่งส่วนใหญ่โรงงานจะผลิตเกรด S,M มากกว่า L