ที่เที่ยวสุรินทร์ ถิ่นช้างใหญ่อีสานใต้

จังหวัดสุรินทร์ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคอีสานที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากในด้านของการท่องเที่ยว จุดเด่นก็คือเป็นจังหวัดที่มีเขตติดต่อประเทศเพื่อนบ้านอย่างเช่นประเทศกัมพูชา เลยทำให้มันกลายเป็นสถานที่สำคัญในการท่องเที่ยว ทั้งคนไทยที่เข้ามาเที่ยว และประเทศเพื่อนบ้านที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวด้วยเช่นเดียวกัน จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย และยังได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดทางอีสานใต้ เป็นถิ่นช้างใหญ่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเที่ยวกันบ่อยๆในช่วงวันหยุดยาว ที่เที่ยวสุรินทร์ จะมีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง ดินแดนอีสานใต้ จะเป็นดินแดนที่น่าท่องเที่ยวอย่างไร

เที่ยวสุรินทร์ ถิ่นช้างใหญ่ ไปไหนไปกัน

• อนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าจางวางปุม อนุสาวรีย์แห่งนี้นั้นตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองจังหวัดสุรินทร์เลย สัญลักษณ์เด่นของอนุสาวรีย์นี้ก็คือ รูปปั้นงาช้างขนาดใหญ่ 2 ข้างตั้งตระหง่านเห็นชัด ว่าตรงนี้คืออนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ใครที่ผ่านไปมา หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาส่วนใหญ่ก็จะเดินทางเข้ามาเพื่อกราบสักการะ เป็นสิรมงคลกับตัวเองยิ่งนัก รูปปั้นงาช้างนี่เองที่แสดงให้เห็นว่าจังหวัดสุรินทร์นั้นเป็นจังหวัดถิ่นช้าง

• นอกจากสุรินทร์จะเป็นถิ่นช้างใหญ่แล้ว ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยปราสาทเก่ามากมายให้เข้าชมและศึกษา ถิ่นปราสาทและโบราณสถานที่น่าศึกษาเป็นอย่างมาก เริ่มจากโบราณสถานที่มีชื่อเสียงมากๆในจังหวัดสุรินทร์อย่าง ปราสาทศีขรภูมิ เป็นปราสาทที่ถูกแกะสลักด้วยหิน เป็นรูปนางอัปสรา ภายในมีเรื่องราวมากมายที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงามและดีมากๆ ทำให้เราได้สัมผัสกับมนต์ขลังของปราสาทได้เป็นอย่างดีทีเดียว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อที่ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสุรินทร์ ยังมีปราสาทอีกมากมายให้คุณได้เดินทางไปท่องเที่ยว ซึ่งก็คือปราสาทตาเหมือน ปราสาทภูมิโปน ต่างก็เป็นสถานที่ที่น่าสนใจทั้งสิ้น นักท่องเที่ยวต่างก็ชอบท่องเที่ยวรวมไปถึงชอบที่จะเรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ต่างๆของปราสาทเหล่านี้ด้วย

• วนอุทยานแห่งชาติพนมสวาย จุดเด่นของอุทยานแห่งนี้ก็คือ มันจะมียอดเขาอยู่ทั้งหมด 3 ยอดด้วยกัน ซึ่งแต่ละยอดนั้นก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป แต่ละยอดเขาก็จะมีวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขานั้น ซึ่งค่อนข้างสูงมาก มีทั้งหมด 3 ยอดเขาด้วยกันก็คือ ยอดเขาชาย ยอดเขาหญิง และยอดเขาคอก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงมากๆของจังหวัดสุรินทร์เลย เริ่มต้นรู้จักกันที่ยอดเขาชาย ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดพนมสวาย สูงประมาณ 210 เมตร มีบันไดก่อขึ้นไป เป็นวัดแรกที่เราควรจะขึ้นไปถึงให้ได้ และต่อไป ยอดเขาหญิง เป็นที่ตั้งของวัดพนมศิลาราม และสุดท้ายเลยคือ ยอดเขาคอก ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาอัฏฐะมุข มีพระพุทธบาทจำลองให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะด้วย ใครที่อยากเข้าไปเพื่อกราบไหว้ขอพร ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยทีเดียว

• มาถึงสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของชาวจังหวัดสุรินทร์ และนักท่องเที่ยวกันบ้าง เดินทางมาที่ทะเลสาบทุ่งกุลา จากก่อนหน้านี้ บริเวณทะเลสาบทุ่งกุลานี้ไม่เคยมีน้ำมาก่อน และเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของทุ่งกุลาร้องไห้ แต่ได้มีการพัฒนาขึ้นมาใหม่ มีการกักเก็บน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ เลยกลายเป็นพื้นที่หนองน้ำใหญ่ที่น่ามอง กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของชาวจังหวัดสุรินทร์ที่น่าเที่ยวมากอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งในตอนนี้มันได้กลายเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน

• และสถานที่ที่เป็นทีเด็ดของจังหวัดสุรินทร์ตามชื่อเรียกว่าถิ่นช้างใหญ่ก็คือ โครงการคชอาณาจักร ซึ่งเป็นสถานที่ที่เอาไว้สำหรับเลี้ยงช้าง เอาไว้สำหรับดูแลช้างมากกว่าร้อยเชือกให้ถูกวิธี ไม่ปล่อยให้ช้างต้องเดินไปตามท้องถนนทั่วไป ให้ช้างได้อยู่ติดกับธรรมชาติ นอกจากจะช่วยเหลือให้ช้างมีชีวิตอยู่แล้ว ยังช่วยรักษาและอนุรักษ์พันธุ์ช้างให้คงอยู่ต่อไปด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวติดชายแดน เป็นจังหวัดที่มีผู้คนเดินทางเข้าออกมากมาย ทั้งคนไทยและชาวประเทศกัมพูชา เป็นแหล่งท่องเที่ยวแดนอีสานใต้ที่ยังคงยอดฮิตมาจนถึงทุกวันนี้ วันหยุดที่ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี ไปลองเที่ยวถิ่นอีสานใต้กันดู จะได้สัมผัสกับชีวิตช้างไทยกันที่นั่นสักครั้ง

แหล่งที่มา

แหล่งอ้างอิง:

• https://travel.kapook.com/view196347.html

ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก:

• https://travel.kapook.com/view196347.html
• https://iiinoomiii.com/2017/12/29/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%B8/
• https://www.77jowo.com/contents/316
• https://travel.mthai.com/region/178288.html
• https://travelsurin4-4.blogspot.com/2019/02/4.html
• http://mesrru.blogspot.com/p/2.html