ศาลหลักเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระสุหร่ายและทรงเจิม ในวันเสาร์ที่ 27 มกราคม ปี 2544 ณ ศาลาดุสิตดาลัย สวนจิตรลดา กรุงเทพฯ ซึ่งการจัดตั้งสร้างศาลหลักเมือง เป็นการสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมของบรรพบุรุษที่มีมาแต่โบราณ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นหลักชัยให้แก่บ้านเมือง
ด้วยเหตุนี้ จังหวัดอำนาจเจริญจึงได้ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี 2538 โดยตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สวนมิ่งเมืองเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ตำบลบุ่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ มีพื้นที่กว่า 34 ไร่ 13 ตารางวา และได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน รวมถึงพี่น้องประชาชน เพื่อดำเนินการจัดสร้างศาลหลักเมือง ซึ่งในครั้งนั้นได้กรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย มาช่วยในการออกแบบศาลหลักเมือง ให้มีรูปลักษณ์แบบจตุรมุขยอดปรางค์ ขนาดกว้าง 27.70 เมตร ยาว 27.70 เมตร และสูง 28.20 เมตร โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทางจังหวัด เทศบาล ประชาชน และการจัดหารายได้ในด้านอื่นๆ
เสาหลักเมืองที่ใช้เป็นหลักเมือง เป็นไม้มงคลชื่อ “ไม้ราชพฤกษ์ (คูณ)” ซึ่งได้มาจาก สวนตะโกทอง จังหวัดนครราชสีมา โดยได้จัดพิธีพลีต้นไม้ตามประเพณีโบราณ และขอให้กองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร นายสนิท วิไล เป็นผู้ออกแบบเป็นรูปทรงกลม ยอดเสาหลักเมืองเป็นทรงแก้วเก้าชั้น รูปแบบคล้ายกับเสาหลักเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเมื่อเดือนกันยายน ปี 2538 และนับตั้งแต่ที่สร้างเสร็จสิ้น ศาลหลักเมือง อำนาจเจริญ ก็เป็นที่เคารพสักการบูชาและเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนจังหวัดอำนาจเจริญเรื่อยมา
ค่าเข้าชม : ฟรีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน ถึงสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนมิตรภาพ ทางหลวงหมายเลข 2 ผ่านจังหวัดนครราชสีมา เมืองพล บ้านไผ่ แยกขวาเข้าสู่ทางหลวงหมาย 23 ผ่านบรบือ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด เสลภูมิ จนถึง จังหวัด ยโสธร จากนั้นให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 202 ถึง จังหวัดอำนาจเจริญ
มีรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว
ลงรถไฟที่สถานี รถไฟวารินชำราบ จังหวัด อุบลราชธานี และเดินทางด้วยรถยนต์ ตามทางหลวงหมายเลข 212 อีกประมาณ 75 กิโลเมตร