ประวัติ "หลวงปู่เฮง ปภาโส" วัดบ้านด่านช่องจอม
หลวงปู่เฮง วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เกจิชื่อดัง
“หลวงปู่เฮง ปภาโส” เจ้าอาวาสวัดบ้านด่านช่องจอม (วัดพัฒนาธรรมาราม) บ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พระเกจิชื่อดังเป็นศิษย์สืบทอดพุทธาคม “หลวงพ่อคง สุวัณโณ” หรือ พระครูอาคมวิสุทธิ์ อดีต เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรส อ.ขลุง จ.จันทบุรี สมญานามว่า “เทพเจ้าแห่งเขาสมิง” อดีต พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดรูปหนึ่งของภาคตะวันออก เป็นพระเกจิอาจารย์ ร่วมสมัยกับหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปัจจุบัน สิริอายุ 90 ปี
เกิดเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2470 พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7
ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติพี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้บอกกับแม่ของท่าน ว่า “โยมอาฉันอยากจะขอให้น้องไปด้วยโยมอาจะว่าอย่างไร ฉันจะได้สอนให้น้องได้หัดเรียนเขียนอ่านจะได้รู้หนังสือ”
ทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น
ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายตั้งแต่อายุ 14 ปี เรียนภาษาขอม และภาษาบาลี และออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ
ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กองพันทหารม้า 29 รักษาพระองค์ หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย และใช้วิชาที่เรียนกับพระอาจารย์เฉิดเมื่อครั้งรุกขมูลไปด้วยกัน
ช่วงชีวิตหนึ่งท่องเที่ยวไปทั่ว มีเรื่องตีรันฟันแทง จนกลายเป็นเสือเฮง แต่ด้วยความที่มีครูดี จึงไม่กลัวใคร
พ.ศ.2492 ไปอยู่ที่เขมร และเดินทางกลับปี พ.ศ.2495 ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี เมื่อพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช
ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งมั่นศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย
พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดวังสรรพรส แทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออก และธุดงค์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิงจ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน
ป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย
ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ
ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัว
เกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิต ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็น พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัด
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความคิดเห็น