ผักขจรถือเป็นผักพื้นบ้านที่คนอีสานรู้จักและคุ้นเคยกันดี โดยเฉพาะดอกขจรที่มีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อย นิยมนำมาปรุงเป็นอาหาร เช่น ผัดดอกขจร ยำดอกขจร หรือลวกจิ้มกับน้ำพริก นอกจากจะเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพแล้ว ขจรยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น เป็นพืชที่ใช้ตกแต่งสวนในบ้าน หรือทำเป็นซุ้มบังแดดได้อีกด้วย บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับวิธีการปลูกผักขจรในรูปแบบที่คุณสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นอาชีพหรือการค้าขายในภาคอีสานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเตรียมต้นพันธุ์
การชำกิ่ง
การชำกิ่งเป็นวิธีที่นิยมในการขยายพันธุ์ผักขจร ทำได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน
- เตรียมดินผสมเพาะชำด้วยแกลบเผา 2 ส่วน ดินร่วน 2 ส่วน และปุ๋ยหมัก 1 ส่วน
- ใส่ดินลงในถุงพลาสติกขนาด 2×3 นิ้ว
- เลือกกิ่งที่ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป มี 2-3 ข้อ นำกิ่งด้านโคนชุบน้ำยาเร่งราก
- ปักชำในถุงที่เตรียมไว้ รดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่ร่ม เมื่อแตกยอดประมาณ 1 คืบหรือหลังจาก 14 วัน ก็ย้ายปลูกได้
การเลือกซื้อต้นพันธุ์
หากไม่สามารถชำกิ่งได้ สามารถเลือกซื้อต้นพันธุ์จากตลาดได้เช่นกัน
- เลือกพันธุ์ที่แข็งแรง มีลักษณะดอกเป็นช่อ ดอกใหญ่ และตรงตามความต้องการของตลาด
- พันธุ์ที่ปลูกเพื่อการค้าจะให้ดอกขนาดใหญ่กว่าพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งช่อดอกเล็กกว่า
วิธีการปลูกผักขจร
ปลูกลงดิน
การปลูกผักขจรในพื้นที่บริเวณบ้านสามารถทำได้ง่ายๆ
- ขุดหลุมลึก 30 – 50 เซนติเมตร กว้าง 30 – 50 เซนติเมตร
- ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 10-20 กรัมต่อหลุม
- ปลูกต้นพันธุ์ 3 – 4 ต้นต่อหลุม
- ทำค้างให้ผักขจรเลื้อย โดยใช้ไม้ไผ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 นิ้ว ปักเป็นเสาหลักสูงจากพื้นดินประมาณ 1.5 เมตร และใช้ไม้ไผ่ขนาดเล็กผูกเป็นขั้นบันได เพื่อให้เถาขจรเลื้อยได้
ปลูกในภาชนะ
หากพื้นที่มีจำกัด การปลูกในภาชนะก็เป็นทางเลือกที่ดี
- ใช้ภาชนะขนาดใหญ่ที่มีความลึกอย่างน้อย 50 เซนติเมตร
- ใส่ดินผสมในภาชนะปลูก (ดินร่วน, ปุ๋ยคอก, แกลบเผา ในอัตราส่วน 1:1:1)
- ใส่ปุ๋ยรองพื้นเช่นเดียวกับการปลูกลงดิน จากนั้นปลูกต้นพันธุ์ 3-4 ต้นต่อภาชนะ
- ทำค้างหรือซุ้มให้เถาขจรเลื้อยขึ้น โดยใช้เสาหลักยึดภาชนะปลูกกับอิฐเพื่อป้องกันการล้ม
การดูแลรักษาผักขจร
การดูแลรักษาผักขจรมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนและสามารถทำได้ง่ายๆ ในบ้าน
- ใส่ปุ๋ยสูตร 25-7-7 หรือ 15-15-15 อัตรา 1 ช้อนชาต่อต้น โรยห่างจากโคนต้น 1-2 นิ้ว และใส่เดือนละ 2 ครั้ง
- ให้น้ำอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นขจรกำลังเจริญเติบโต
- ตัดกิ่งที่แก่และกิ่งที่ให้ดอกแล้วออกเสมอ เพื่อกระตุ้นให้เกิดยอดใหม่
- กำจัดวัชพืชทุกครั้งที่มีการให้ปุ๋ยหรือเมื่อพบว่ามีวัชพืชขึ้นมารบกวน
การเก็บเกี่ยวผักขจร
ผักขจรจะเริ่มให้ดอกหลังปลูกประมาณ 30 วัน และจะให้ผลผลิตมากที่สุดเมื่ออายุ 8-10 เดือน
- ใช้มีดตัดช่อดอกที่เริ่มบาน หรือจะเก็บตอนดอกตูมก็ได้ตามความชอบ
- ล้างทำความสะอาดก่อนรับประทานหรือขาย
สรุป
การปลูกผักขจรไม่เพียงแต่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการทำเกษตรในภาคอีสาน แต่ยังเป็นพืชที่สามารถปลูกในพื้นที่ขนาดเล็กได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งนี้ การดูแลที่เหมาะสมและการให้ปุ๋ยสม่ำเสมอจะช่วยให้ผักขจรเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่ดี อย่าลืมลองปลูกขจรไว้ในสวนหรือบ้านของคุณ ไม่ว่าจะเพื่อบริโภคเองหรือเพื่อขาย หากใครมีเคล็ดลับการปลูกผักขจร หรือข้อสงสัยใดๆ มาแบ่งปันกันในคอมเมนต์ด้านล่างได้เลยค่ะ
อ้างอิง
ข้อมูลอ้างอิงจาก: “125 อาชีพเกษตรกรรมทางเลือก โดย กองนโยบายเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรและเกษตรกรรมยั่งยืน”