วันนี้แอดมินหาเพลงฟังเพลินๆ เปิดเพลงของอาจารย์ ดาว บ้านดอน อีสานบ้านเฮา มีเนื้อหาที่พูดถึงผักชนิดหนึ่ง ซึ่งนับว่าเป็นผักพื้นบ้านขึ้นชื่อมาก นั่นก็คือผักกะแยง หรือบ้างก็เรียก ผักแขยง ผักขะแยง แต่เอาเป็นว่ามันก็คืออันเดียวกันนั่นเอง
ชื่อสามัญไทย : ผักแขยง (ผักขะแยง)
ชื่ออื่นที่เรียกกัน : กะออม กะแยง (ตะวันออกเฉียงเหนือ), กะแยงแดง (อุบลราชธานี), ผักกะแยง กระแยง (อุดรธานี), ขะแยง (อุบลราชธานี,มุกดาหาร), ผักพา (ภาคเหนือ), มะอม ปะกามะออม (เขมร)
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Limnophila geoffrayi Bonati
ชื่อวงศ์ : Scorphulariaceae
ผักกะแยงมักจะขึ้นเองตามท้องนา ที่มีความอุดมสมบูรณ์ หลังจากที่หน้าฝนเริ่มมา พื้นที่ที่ชุ่มน้ำและเลยมีผักกะแยงเกิด ก็จะเริ่มงอกเบี้ยผักกะแยง และเกิดขึ้นมา โตเร็วทำให้วัชพืชขึ้นไม่ทัน ผักกะแยงชอบพื้นที่ชุ่มๆ เวลาที่ชาวนาไถนาดำนาปลูกข้าว ตามท้องนาจึงมีผักกะแยงไปเกิดขึ้นแซมกับข้าว แต่ไม่เป็นอันตรายต่อต้นข้าว สามารถนำมาปลูกใส่กระถางขึ้นได้ตลอกทั้งปี ขอให้มีน้ำชุ่มอยู่ตลอดเวลา
อาหารขึ้นชื่อที่เรามักจะเห็นมีผักกะแยงเป็นส่วนประกอบนั่นก็คือ แกงหน่อไม้
เห็นภาพแล้วน้ำลายไหลจริงๆ จุดเด่นของผักกะแยงคือกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีคุณสมบัติทางยาเป็นสมุนไพรอีกด้วย
สรรพคุณของผักแขยง (ผักขะแยง)
คั้นน้ำจากต้นแก้ไข้ ทั้งต้นเป็นยาขับน้ำนม ขับลม และเป็นยาระบาย
ผักขะแยงมีรสเผ็ดร้อน มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ช่วยเจริญอาหาร
ผักขะแยง 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 32 กิโลแคลอรี่ มีเส้นใยอาหาร 105 กรัม แคลเซียม 55 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 62 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 62 มิลลิกรัม เหล็ก 502 มิลลิกรัม วิตามินปีหนึ่ง 0.02 มิลลิกรัม วิตามิบีสอง 0.87 มิลลิกรัม ไนอาซิน 0.6 มิลลิกรัมและวิตามินซี 5 มิลลิกรัม