เพื่อเป็นการรำลึกถึงอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ประวัติศาสตร์เล่าว่า เมื่อครั้งศรีโคตรบูรณ์รุ่งเรือง บ้านเมืองสงบสุข ศิลปะต่างๆ เจริญเป็นอันดี ศิลปะด้านดนตรี และนาฏศิลป์ ตามหัวเมืองน้อยใหญ่ ก็รุ่งเรือง เป็นที่นิยมมาก จึงได้ตั้งชื่อชุดการแสดงนี้ว่า ฟ้อนศรีโคตรบู…
ศรีโคตรบูรณ์ เป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในอดีต อาณาจักรหนึ่งแห่งภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งศูนย์กลางอาณาจักร อยู่ในเขตนครพนมและสกลนคร
มีเกล็ดประวัติศาสตร์เล่าว่า เมื่อครั้งศรีโคตรบูรณ์รุ่งเรือง บ้านเมืองสงบสุข ศิลปะต่างๆ เจริญเป็นอันดี ศิลปะด้านดนตรี และนาฏศิลป์ ตามหัวเมืองน้อยใหญ่ ก็รุ่งเรือง เป็นที่นิยมมาก อยู่มาวันหนึ่ง เจ้าเมืองศรีโคตรบูรณ์ จึงดำริให้มีการเล่นแอ่วแคนประกอบการฟ้อนรำประกวดประชันกัน ระหว่างคณะแอ่วแคนต่างๆ โดยทำนองเพลงและฟ้อนรำ ขอให้ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ทั้งหมด ขอให้เป็นการแสดงใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
คณะแอ่วแคนต่างๆ ก็ส่งการแสดงเข้าประกวดมากมาย สุดท้าย เจ้าเมืองศรีโคตรบูรณ์ ได้ตัดสิน ให้แอ่วแคนชุดนี้ ชนะการประชัน…. และต่อมา เพื่อเป็นการรำลึกถึงอาณาจักรนี้ จึงได้ตั้งชื่อชุดการแสดงนี้ว่า “ฟ้อนศรีโคตรบูรณ์”
ใช้ผู้หญิงล้วน ดั้งเดิม เป็นรำประกอบลายแคน จังหวะโยก โย่น โอนเอน อ่อนไหว จังหวะเพลง และท่ารำก็อ่อนช้อย งดงาม สมเป็นการแสดงระดับสูงซึ่งแสดงต่อหน้าเจ้าเมือง
ใช้เสื้อแขนกระบอกสีดำขลิบแดง ผ้าถุงสีดำ ผ้าคาดเอวสีแดง เครื่องประดับใช้เครื่องเงินตั้งแต่ตุ้มหู สร้อยคอกำไลเงิน ผมเกล้ามวยสูง รัดเกล้าด้วยผ้าแดง
คือลายศรีโคตรบูรณ์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ลมพัดไผ่” (เหตุที่เรียกว่า ลายลมพัดไผ่ เนื่องจาก ท่วงทำนองโยก โอนเอน คล้ายกับลำไผ่ยามต้องลมซึ่งโอนเอนไปมา และในลูกเล่นปลีกย่อยภายในทำนองเพลง ก็สะบัดพลิ้วไหว ราวกับเรียวใบไผ่สะบัดพลิ้วเล่นลม)