หลุมขนมครก คือ การกักเก็บน้ำ ทั้งบนดิน และใต้ดิน ในพื้นที่ เพื่อให้มีน้้ำไว้ใช้พอเพียง หลุมขนมครกสามารถทำได้ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับพื้นที่ของตัวเองก็มีหลุมขนมครกได้ ไปจนถึงระดับภาคหรือทั้งประเทศก็มีหลุมขนมครกได้เช่นกัน
สมมุติว่ากระทะขนมครกคือประเทศไทย หลุมขนมครกในกระทะ 1 หลุม ก็เปรียบเสมือนพืันที่กักเก็บน้ำ 1 ที่ เช่นอาจจะเป็น เขื่อน อ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ เป็นต้น
ถ้าลองย่อมุมมองให้เล็กลงมาอีกหน่อย สมมุติว่ากระทะขนมครกคือจังหวัด หลุมขนมครกในกระทะ 1 หลุม ก็เปรียบเสมือนแหล่งน้ำ 1 ที่ เช่น อ่างเก็บน้ำของจังหวัด บึง หนอง เป็นต้น
และถ้าย่อมุมมองลงมาอีก ให้สมมุติว่ากระทะขนมครกคือพื้นที่ของเรา หลุมขนมครกก็คือ หนอง นา บ่อ โอ่งน้ำ ฯลฯ
ดังนั้นคำว่า หลุมขนมครก ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นการขุดบ่อหรือขุดหลุมเสมอไป สามารถเป็นอะไรก็ได้ที่เป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ทั้งบนดินและใต้ดิน ก็นับว่าเป็นหลุมขนมครกทั้งหมด
ลองนึกภาพว่าเราเทน้ำลงในกระทะขนมครก จะพบว่าน้ำบางส่วนก็จะไหลออกไป และน้ำบางส่วนก็จะขังอยู่ในหลุมขนมครก เหตุการณ์จำลองนี้ก็เปรียบเสมือนฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นตกลงมาในประเทศ ตกลงมาในแต่ละภูมิภาค หรือตกลงมาในพื้นที่ของเรา ถ้าพื้นที่ของเราเป็นพื้นที่ราบเรียบ น้ำฝนที่ตกลงมาก็จะไหลผ่านออกไป จะมีแค่ส่วนน้อยที่ซึมลงดินในพื้นที่เรา
แต่ถ้าเราขุดหนองน้ำ ปลูกป่า ปลูกหญ้าแฝกเป็นแนวชะลอน้ำ ขุดคลองไส้ไก่ น้ำฝนที่ตกลงมาก็จะไหลลงไปยังจุดต่าง ๆ ที่ว่ามา ทำให้แทนที่น้ำฝนจะไหลออกไปจนหมดก็ถูกกักเก็บไว้ในพื้นที่ หรือบางส่วนที่ไหลออกไปอย่างรวดเร็วก็ไหลช้าลงและซึมลงใต้ดินมากขึ้น
เมื่อมองการทำโคก หนอง นา เป็นหลุมขนมครก 1 หลุม สมมุติว่าเกษตรกรมีพื้นที่คนละ 10 ไร่ นับเป็น 1 หลุมขนมครก เมื่อเกษตรกรทำแบบนี้เหมือนกัน ก็จะทำให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้น ยิ่งทำกันมากก็จะยิ่งมีความชุ่มชื้นมาก ซึงจะช่วยลดปัญหาน้ำท่วมและขาดแคลนน้ำไปได้ไม่มากก็น้อย
เก็บน้ำได้เท่าปริมาตรของหนองหรือสระน้ำที่ขุด เฉลี่ยแล้วน้ำระเหยปีละ 300 วัน วันละ 1 ซม. น้ำจะระเหยปีละ 3 เมตร ดังนั้นควรจะขุดให้ลึก 3 เมตร หรือถ้ามีกำลังก็ขุดลึกมากกว่า 3 เมตรได้ จึงจะเหลือน้ำพอในหน้าแล้ง
ทำคันนาสูงอย่างน้อย 1 เมตร ถ้านา 1 ไร่ ก็จะสามารถจุน้ำได้ 1,600 ลูกบาศก์เมตร ประเมินว่าน้ำซึมลงดินอย่างน้อย 50% เหลือน้ำครึ่งหนึ่งอยู่ในนาข้าว
นำดินที่ขุดจากสระน้ำมาถมทำโคก สำหรับปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง โคกเก็บน้ำไว้จากป่าบนโคก น้ำเก็บในใต้ดินได้ประมาณ 50% ของปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา
ขุดคลองไส้ไก่คดเคี้ยว โค้งไปมา เป็นทางน้ำบนดินเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับพื้นที่ ไม่ต้องวางท่อ ไม่ต้องติดสปริงเกอร์ ขุดบ่อพักน้ำไว้เป็นระยะ เพื่อดักน้ำให้กระจายทั่ว ลดภาระการรดน้ำด้วยแรงงานคน
สร้างฝายชะลอน้ำ ฝายกักตะกอน ตามคลองไส้ไก่ ฝายช่วยชะลอความเร็วของน้ำ และทำหน้าที่ดักตะกอนไม่ให้ไหลลงไปในหนอง นำตะกอนที่ได้กลับมาทำปุ๋ยหมัก
ฝายที่สามารถใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ หรือจะใช้พืชน้ำก็ได้ เช่น หญ้าแฝก เป็นต้น
ถังเก็บน้ำ ก็นับเป็นหลุมขนมครกแบบหนึ่ง เหมาะสำหรับเก็บน้ำในสถานที่จำกัด หรือกรณีที่ต้องการทำเป็นระบบประปาในพื้นที่ ก็เอาขึ้นที่สูง อาจจะเป็นบริเวณเนินสุงสุดในพื้นที่ แล้วปล่อยน้ำลงมาตามคลองไส้ไก่ (ปัจจุบันนิยมสร้างแผงโซล่าร์เซลล์เพื่อสูบน้ำขึ้นที่สูง)
เป็นหลุมขนมครกในรูปแบบที่เห็นกันชินตา โดยรับน้ำจากหลังคาด้วยรางน้ำ ต่อรางลงตุ่มเก็บน้ำไว้ใช้ ตุ่มน้ำ เป็นรูปแบบที่ง่ายที่สุดสำหรับเก็บน้ำฝน ทุกบ้านสามารถทำได้
หลุมขนมครก เป็นการจำลองการกักเก็บน้ำฝนไว้ในรูปแบบต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายและแตกต่างกันไป ในพื้นที่หนึ่งสามารถทำได้มากกว่า 1 รูปแบบ ไม่จำกัดว่าจะต้องทำอะไรเป็นหลัก เพราะทุกรูปแบบสามารถกักเก็บน้ำได้เช่นกัน แต