หน้าแรก » ผญาอีสาน » Page 29
ได้ดีมีสุขแล้ว ผักตำลึงก็ไม่อยากมอง ได้กินชิ้นเนื้อแล้ว ปลาบู่ก็ไม่อยากเหลียวดู
หมายถึง ได้ดีมีสุขแล้ว อย่าลืมตัว อย่าลืมญาติพี่น้อง
ถ้าได้ดีมีสุขแล้ว ไม่เหลียวแลเพื่อนพ้อง ถึงคราวตกยากมา จะหันหน้าไปพึ่งใคร
หมายถึงได้ดีมีสุขแล้ว อย่าลืมตัว อย่าลืมหมู่พวกเพื่อนฝูง
ถ้าได้เป็นใหญ่นั่งช้าง กางสัปทน ก็อย่าลืมคนจน ผู้อยู่บนจอมปลวก คอยเการิ้นเหลือบ หมายถึง ได้เป็นใหญ่แล้ว อย่าลืมตัว อย่าลืมประชาชน
ในโลกนี้ ไม่ใช่มีเพียงเราคนเดียว อยู่ตัวคนเดียว ก็เป็นบ้านเมืองไม่ได้ หมายถึง อย่าคิดว่าตนเก่งกว่าคนอื่น จนไม่ยอมลดตัวคบหาใคร
มีผ้านุ่งแล้ว หากไม่มีผ้าแพรสไบประดับด้วย ก็ขัดตา ไม่น่าดู หมายถึง ควรคบหาคนอื่นไว้เป็นสหาย
ผญานกเจ่า นกกระยาง ให้ดูนกเจ่าเป็นตัวอย่าง นกเจ่า เมื่อบินบนฟ้า มองเห็นเป็นสีขาวประหนึ่งนกกระยาง หมายถึง ให้รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน อย่าโอ้อวดว่าตนเก่ง
ธรรมชาติทองคำ ตกดินไม่หม่นหมอง ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าขี้ริ้ว ก็ยังผุดผ่องดังเดิม หมายถึง คนจิตใจงาม มีศีลธรรม อยู่ที่ไหนก็งาม
แค่เห็นเพียงตัวกลมหางยาว อย่าเพิ่งว่าเป็นปลาไหล เพราะหากเป็นงูแล้วไซร้ มันจะขบกัดเอาได้ หมายถึง อย่าทำอะไรด้วยความผลีผลาม พลาดพลั้งไปจะแก้ไขไม่ทันการณ์
แค่เพียงได้ยินเสียงร้องคุ้นๆ อย่าเพิ่งว่าเป็นวัวของตน เพราะหากเป็นเสือแล้วไซร้ มันจะกัดเอาได้หมายถึง อย่าทำอะไรด้วยความประมาท พลาดพลั้งไปจะแก้ไขไม่ทันการณ์
หากได้เป็นใหญ่ นั่งช้าง กางสัปทน อย่าได้ลืมคนจน ผู้เดินตามหลังช้าง หมายถึง ได้เป็นใหญ่แล้ว อย่าหลงอำนาจ อย่าลืมทวยราษฎร์บริวาร
ข้างนอกเกลี้ยง ข้างในเป็นมะเดื่อ เนื้อด้านนอกหวาน ด้านในเปรี้ยวดั่งมะนาว หมายถึง อย่าเป็นคนหน้าเนื้อ ใจเสือ ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ
ถ้าได้นั่งช้าง ก็อย่าลืมหมูหมา เผื่อว่าขโมยแอบเข้ามา ก็ยังจะได้เห่าขโมย หมายถึง ได้ดีแล้วอย่าลืมตัว อย่าลืมผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ