ดอกอีบุกป่าหรือต้นบุกป่ากลิ่นเหม็นคล้ายศพแต่มีประโยชน์หลายอย่าง มาดูกันเลยว่าทำอะไรได้บ้าง
อีสานร้อยแปดจะพาทุกคนไปชมบรรยากาศตามหาดอกบุกป่ากันค่ะ พาลัดเลาะเข้าป่าหาของกินตามวิถีมากกว่านั้นก็ชีวิตของคนอีสานในพื้นที่ชนบทค่ะ เราจะไปตะลุยพื้นที่ไหน ไปหาอะไรนั้นไปดูพร้อม ๆ กัน ไปกันเลยจ้า วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับต้นบุกหรือดอกบุกกันค่ะ ไปกันเลย
สมัยก่อนคนเฒ่าคนแก่เขาจะออกหาดอกบุกตอนเช้า เพื่อนำมาเป็นอาหาร มากกว่านั้นก็คือกลิ่นของดอกบุกส่งกลิ่นเหม็นคล้ายศพเน่า ถ้าเก็บตอนกลางคืนคงมีหลอนกันเลยค่ะ แต่มันมีดีที่ตรงด้านในดอกบุก มีแมลงอาศัยอยู่ด้านในสามารถนำมาประกอบอาหารได้ น่าจะเป็นแมลงตะกูลเดียวกับพวก กุดจี เราก็จะตัดดอกมันมาเคาะเอาแมลงที่อยู่ด้านในนะ ส่วนดอกที่ตัดเราก็ทิ้ง เพราะมันเหม็นมาก??? ทุกดอกมีแมลงมากน้อยแล้วขึ้นอยู่กับตัวแมลงจะหาที่อยู่อาศัย โชคดีหน่อยก็อาจจะมีเยอะ หรือบางดอกก็ไม่มีแมลงเลยก็ได้
“ดอกบุก”จะออกได้ก็ต่อเมื่อบุกเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว 4-6 ปี โดยจะแทงออกจากหัวบุกหลังจากลำต้นเหี่ยวตายแล้วประกอบด้วยก้านดอก ที่มีลักษณะ และขนาดคล้ายกับลำต้น ปลายก้านดอกเป็นกลีบดอก และมีเกสรด้านใน เมื่อบานเต็มที่จะส่งกลิ่นเหม็นคล้ายกลิ่นเนื้อเน่า และในดอกมีแมลงอาศัยเต็มดอกเลยก็ว่าได้
ประโยชน์ในหลายด้าน ได้แก่
– นำมาแปรรูปเป็นแป้งบุกสำหรับแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ อาทิ ทำขนมหวาน เส้นก๋วยเตี๋ยว ทำไส้กรอก ทำวุ้นเส้น ทำเส้นหมี่ เป็นต้น
– แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปของผงในแคปซูล
– แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารในรูปของผงสำหรับชงดื่ม
– นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
– นำมาฝานเป็นแผ่น ตากแห้ง และนำมานึ่งรับประทาน
– หัวนำมาต้มหรือนึ่งรับประทาน หรือทำเป็นของหวาน
– หัวนำมาประกอบเป็นอาหารคาวร่วมกับเนื้อสัตว์ได้หลายเมนู
– ลำต้นนำมาประกอบอาหาร เช่น บุกอีลอกนำมาทำแกง