ลาบเทา มื้อนี้ขอเสนอเมนูอีสานรสเด็ดที่จัดว่าเข้าข่ายอาหารโบราณอีกชนิดหนึ่ง ที่อีกไม่นานคงจะลางเลือนไปตามกาลเวลาคงมีเพียงภาพและคำบรรยายเก็บไว้เป็นข้อมูลเท่านั้น จะมีวิธีทำอย่างไร ตามมาดูกัน
เทา ซึ่งเป็นสาหร่ายน้ำจืดชนิดหนึ่งชื่อภาษาอังกฤษคือ Spirogyra (สไปโรไจรา)(คนอีสานเรียกว่า “เทา”) เป็นสาหร่ายที่ขึ้นในน้ำจืดที่สะอาด ทั้งน้ำนิ่งและไหลเอื่อยๆ มีสีเขียวเป็นเส้นกลมยาวขนาดเล็กพันกันเป็นเกลียวนิ่มลื่นมือพบได้ในแหล่งน้ำภาคเหนือและอีสาน นิยมนำมาบริโภคในรูปผักจิ้มน้ำพริก และทำลาบ
ประโยชน์ของเทา นอกเหนือจากจะนำมาทำเป็นอาหารแล้ว ยังใช้เป็นปุ๋ยชีวภาพ จากการวิจัยของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย พบว่า สาหร่ายสีเขียวในนาข้าวบางชนิด สามารถตรึงไนโตรเจนในอากาศให้เป็นสารประกอบไนโตรเจนได้ อีกทั้งยังใช้ในทางอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง โดยการศึกษาจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า เครื่องสำอางที่ผสมสาหร่ายและสารสกัดจากสาหร่าย จะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้นและลดริ้วรอย ส่วนในประเทศไทย ก็ได้มีบริษัทหลายแห่งที่ใช้สาหร่ายเป็นเครื่องสำอางในรูปแบบของครีมบำรุงผิว
นอกจากนี้ ในทางการแพทย์ ได้ทดลองใช้สาหร่ายในการป้องกันและรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคกระเพาะ อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดและความไม่สมดุลในร่างกายอีกด้วย อีกถือเป็นพืชที่มีสรรพคุณอย่างมาก
หมายเหตุ : เทาอาจมีไข่พยาธิ หรืออื่นๆ ปนมาด้วย เมื่อต้องการกำจัดไข่พยาธิ สามารถต้มเดือดลาบเทา ลาบเทาจะเหลวเป็นน้ำ แต่คุณค่าอาหารยังอยู่ หากต้องการรับประทานลาบเทาสดๆ ให้นำไปแช่แข็งก่อนปรุงที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งประมาณ 10 – 20 นาที ไข่พยาธิก็จะแตก (ตาย)