Newsletter Subscribe
Enter your email address below and subscribe to our newsletter
Enter your email address below and subscribe to our newsletter
ตำนานพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี รอยพระพุทธบาท อยู่บนยอดเขาคิชฌกูฏ หรือเขาพระบาท ตำบลพลวง สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,079 ฟิต รอยพระพุทธบาทนี้จะมีมาแต่ครั้งใดไม่ปรากฏ มีประวัติเล่ามาว่าเมื่อ พ.ศ.2397นายติ่ง หรือสมุนติ่ง กับพวกซึ่งอาชีพในการหาไม้กฤษณากะสำนักได้พากันไปหาไม้กฤษณากะสำนักที่บนเขานี้ และได้ไปตั้งที่พักอยู่บนเขานี้ด้วย ตอนกลางวันต่างก็พากันออกไปเที่ยวแสวงหาโชคลาภตามป่าอยู่มาวันหนึ่งเมื่อออกไปจากที่พักไปหาไม้กฤษณาในป่าแล้วได้พากันไปนั่งพักเหนื่อยอยู่ที่ลานหินบนยอดเขาแห่งหนึ่ง พอหายเหนื่อยแล้วก็พากันเดินกลับที่พัก แต่เดินกันไปมาก็ปรากฏว่าได้วกกลับมาที่ลานหินเดิมนั้นอีก เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนักจึงได้พากันนั่งพักเหนื่อยยังลานหินนั้นอีก เพื่อนของสมุนติ่งคนหนึ่งได้ถอนหญ้าที่ลานหินนั้น เพื่อจะนอนก็ปรากฏว่าพบแหวนนาคขนาดใหญ่วงหนึ่ง ขนาดสวมหัวแม่เท้าได้สบาย เมื่อปรากฏเช่นนั้นทุกคนก็เข้าใจว่า ที่ตรงนี้คงจะมีทรัพย์สมบัติมากจึงได้ช่วยกันถอนหญ้าบนลานหินนั้นจนหมดแต่ก็ ไม่พบอะไรอีก นอกจากลานหินซึ่งมีรอยเท้าขนาดใหญ่ของมนุษย์ยาวประมาณ 5 ฟิตเศษกว้างประมาณ 2 ฟิตเศษ และทั้งรอบเท้านั้นมีลวดลายเป็นกงจักรและก้นหอย และหลังจากที่สมุนติ่งกับพวกก็กลบรอยพระบาทแล้ว ก็พากันกลับไปที่พักได้โดยสะดวก แต่สมุนติ่งเป็นคนที่ไม่มีความรู้ในเรื่องรอยพระบาทจึงไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง ต่อมาที่วัดพลับ ตำบลบางกะจะ ซึ่งเป็นเมืองเก่าของจังหวัดจันทบุรีได้มีงานเทศกาลปิดทองรอยพระพุทธบาท สมุนติ่งได้ไปปิดทองรอยพระบาท กับพี่ชาย แกรู้สึกแปลกใจมากที่รอยพระพุทธบาทนี้ช่างเหมือนกับที่แกเห็นอยู่บนลานหินยอดเขาคิชฌกูฏ เมื่ออดใจไม่ได้จึงได้พูดให้พี่ชายฟังพี่ชายจึงได้เรียนให้หลวงพ่อเพ็ชรเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรีซึ่งเป็นเจ้าอาวาส วัดทราบ ท่านเจ้าคณะจังหวัดจึงเรียกสมุนติ่งไปสอบถาม และให้พระภิกษุ 2 รูปตามสมุนติ่งไปดูในวันต่อมาและเมื่อพิจารณาแล้วได้ลงความเห็นว่าเป็นรอยพระพุทธบาทอันแท้จริง และได้ตรวจดูตามบริเวณนั้นจนทั่วพบหินก้อนหนึ่งใหญ่โตมากตั้งอยู่ใกล้รอยพระพุทธบาท มีรอยมืออีกด้านหนึ่งตรงกันข้ามกับรอยพระพุทธบาท ห่างจาก รอยพระพุทธบาทประมาณ 15 วา มีรอยเป็นรอยรถอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ บนลานหินรอยพระพุทธบาทมีหินก้อนใหญ่โตมาก ลักษณะคล้ายบาตรพระตะแคง ตั้งลอยอยู่เรียกว่า ลูกบาตร มองเห็นแต่ไกลและมีหินก้อนหนึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือปรากฏว่าเป็นรูปช้างหมอบ ภายใต้ท้องช้างเป็นถ้ำ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้มีถ้ำ 1 ถ้ำ ชื่อว่า ถ้ำสำเภอใต้แผ่นหินรอยพระบาทเป็นถ้ำชื่อ ถ้ำฤาษี จากถ้ำฤาษีทะลุออกไปยังบ่อน้ำแห่งหนึ่งเป็นบ่อติดอยู่ในซอกหิน กว้างประมาณเท่าขันตักน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำพุออกมาจากหินตลอดเวลา แต่น่าประหลาดที่น้ำในบ่อนี้ไม่รู้จักหมดแม้จะตักใช้กันเท่าใด ๆ ก็ไม่หมด และเหนือขึ้นไปจากลานหินรอยพระพุทธบาทขึ้นไปมีก้อนหินใหญ่ตั้งอยู่ 2-3 ก้อน แต่ละก้อนใหญ่โตขนาดบังกะโล ชาวบ้านเรียกว่าห้างฝรั่ง เพราะฝรั่งได้ขึ้นไปส่องกล้องทำแผนที่และพักอยู่บนนี้