
Newsletter Subscribe
Enter your email address below and subscribe to our newsletter
Enter your email address below and subscribe to our newsletter
วันนี้แอดมินจะพาไปครั้นส้มผักแป้น มาดูกันว่าจะมีวิธีการอย่างไรบ้าง เชื่อว่าคนอีสานหลายๆคนจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
ผักแป้น เรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า ผักกุยช่าย เป็นไม้ล้มลุก มีเหง้าเล็กและแตกกอ มีลัษณะคล้ายกับต้นหอมและกระเทียม ใบแบนเรียบ มีกลิ่นฉุนเล็กน้อย
ผักแป้นสามารถรับประทานเป็นอาหารได้ เอามารับประทานสดกับลาบหรือตำมะละกอก็ได้ และนอกจากนั้นยังใช้ใบทำเป็นไส้ของขนมกุยช่ายได้อีกด้วย และยังเป็นยาสมุนไพร เป็นยาแก้หวัด บำรุงกระดูก บำรุงไต เป็นต้น
ส้มผักหรือผักดอง ชาวอีสานมักจะเรียกว่าส้มผัก ในภาคอีสานจะหารับประทานง่ายและมีรสชาติแตกต่างไปจากผักดองในเมืองหลวง ส้มผักมีหลายชนิด มีทั้งส้มผักกาดขาวหรือกะหล่ำปลี ส้มผักหอม ส้มผักเสี้ยน ส้มผักแป้น เป็นต้น
” ว่าด้วยเรื่องส้มผักหรือว่าผักดองนั้น คนอีสานบ้านเฮาสิฮู้จักดี เพราะว่าเอาไปกินกับอิหยังกะแซ่บ กินกับตำบักหุ่ง ตำบักถั่ว ปิ้งปลา หรือว่าสิเป็นแจ่วกะแซ่บเด้อพี่น้อง รสชาติของส้มผักบ้านเฮาที่คั้นเองเฮ็ดเองกับมือเฮา มันกะสิบ่คือกันกับรสชาติของส้มผักที่เฮาไปซื้อยุในเมืองมากินเด้ะ มื้อนี้แอดเลยสิมาแนะนำเมนูส้มผักชนิดหนึ่ง ที่แซ่บบ่แพ้ส้มผักอื่นๆ นั่นกะคือ ส้มผักแป้น “
วัตถุดิบในการทำส้มผักแป้น
1.ผักแป้น
2.กะหล่ำปลี
วิธีทำส้มผักแป้น
-นำผักแป้นมาตัดส่วนรากทิ้งและลอกส่วนใบที่แห้งออกให้เหลือแต่ใบสีเขียว และนำกะหล่ำปลีมาหั่นให้ได้4-5ส่วนของลูกกะหล่ำปลี
-จากนั้นนำผักแป้นและผักกะหล่ำปลีไปล้างน้ำแล้วผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
-หั่นผักแป้นให้ได้ประมาณ2-3นิ้ว ใส่เกลือ1-2กำมือ หรือใส่ตามที่เราต้องการ แล้วคั้นให้ผักอ่อนนิ่ม จนมีน้ำผักออกมา
-จากนั้นค่อยนำผักกะหล่ำปลีมาคั้นเหมือนกับที่คั้นผักแป้น แล้วนำมาเทคั้นรวมกันอีกครั้ง
-เมื่อคั้นจนผักนิ่มแล้ว ให้ใส่น้ำสะอาดล้างคั้นเอาแต่ผัก ล้างให้ความเค็มของเกลือออกด้วยและผักก็สะอาด
-แล้วนำข้าวเหนียวมาใส่ประมาณ1คำใหญ่ๆ และใส่เกลือปรุงรสตามที่เราต้องการ ใส่ชูรสและน้ำตาลเล็กน้อย
-จากนั้นคั้นให้เข้ากัน ใส่น้ำซาวข้าวเล็กน้อย แล้วเทลงในหม้อที่มีฝาปิด ตั้งทิ้งไว้ประมาณ1-2วัน
-พอครบกำหนดวัน ส้มผักแป้นของเราก็สามารถเอาออกมากินได้แล้ว