ไร่ชา 101

สถานที่ท่องเที่ยว

ไร่ชา 101 แม่สลอง ได้นำชาเข้ามาทดลองปลูกใน พ.ศ. 2518 สมัยรัฐบาล จอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งรับสนองพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ให้มาแก้ปัญหาให้อดีตคณะทหารนายพลต๊วน (กองพล 93) โดยสนับสนุนให้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมหลังจากการวางอาวุธ โดยมีพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เป็นเสธ. ของบก. สูงสุด
ในสมัยนั้นได้ประสานไปยังประเทศไต้หวัน เพื่อขอนำกล้าชาสายพันธุ์อัสสัม ชิงชิงอู่หลง มาทดลองปลูก โดยมีเจ้าหน้าที่จากโครงการหลวงมาให้ความรู้ในเรื่องการเพาะปลูกและนอกจากนั้นก็มีการส่งเสริมการปลูกผลไม้เมืองหนาวควบคู่ไปด้วย
ในระยะเริ่มแรกยังมีปัญหาในเรื่องสายพันธุ์ชาไม่ค่อยมีคุณภาพ ในปีพ.ศ. 2530 รัฐบาลไต้หวันได้มอบทุนให้ลูกหลานแม่สลองไปดูงานทางด้านการเกษตร (คุณจำเริญ คุณจตุพล ชีวินเฉลิมโชติ ได้ร่วมเดินทางไปด้วย) ยังประเทศไต้หวัน และจากการไปครั้งนั้น ทำให้ค้นพบว่าชาเป็นพืชมหัศจรรย์และสามารถทำรายได้มูลค่ามหาศาลโดยเฉพาะชาที่อยู่ในสายพันธุ์อู่หลง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหลายสายพันธุ์ เช่น ชิงชิงอู่หลง อู่หลงเบอร์ 12 ชาสี่ฤดู ชาฉุ่ยยี่ มีราคาจำหน่ายสูง ตั้งแต่ 1,500-8,000 บาท หลังจากนั้นก็พยายามนำสายพันธุ์ชาอู่หลงเข้ามาปลูกในประเทศไทยแต่ประสบปัญหาในการนำเข้า จนกระทั่งปี 2532 โครงการหลวงได้เข้ามาช่วยเหลือในการนำสายพันธุ์อู่หลงทั้ง 4 สายพันธุ์ เข้ามาขยายพันธุ์ได้
ลักษณะการปลูกชาที่นี่จะปลูกเป็นขั้นบันได ดูสวยงามมาก ที่ไร่นี้ให้ลงไปถ่ายรูปกับต้นชาได้ แต่ห้ามไปเด็ดหรือแตะต้องใบชา การเก็บชานั้น จะเก็บเวลา 9.00-15.00 น. ใน 1 ปีสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากสุด 7-8 ครั้งเท่านั้น ไร่ชาที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมานานหลายปี และยังรับหน้าที่เป็นฉากให้กับภาพยนตร์โฆษณาและละครหลายเรื่อง
ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนดอยแม่สลอง บนดอยแห่งนี้หาได้มีพื้นที่ราบเพื่อทำการเพาะปลูกไม่ จึงเป็นการปลูกชาแบบขั้นบันไดลดหลั่นไปตามเนินเขา ก่อเกิดภาพไร่ชาขั้นบันไดที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะภาพยามเช้าของชาวอาข่าที่กำลังทำหน้าที่เก็บยอดใบชาท่ามกลางสายหมอกอ่อนๆ ที่ปกคลุมทั่วดอยแม่สลองที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี
ที่นี่เป็นไร่ชาที่คว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดสุดยอดชาโลกบนดอยแม่สลอง บริเวณทางเข้าจะเห็นความสวยงาม ของต้นชาเรียงรายเป็นขั้นบันได สลับกับเบื้องหลังเป็นทิวเขา เป็นภาพงดงามราวกับอยู่ในห้วงแห่งความฝัน