5 เรื่องน่ารู้! เริ่มต้นใช้งานบริการส่งของออนไลน์ ต้องรู้อะไรบ้าง?

บริการส่งของออนไลน์

ในยุคที่การซื้อขายออนไลน์กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว การใช้ บริการส่งของออนไลน์ ก็กลายเป็นหัวใจหลักของการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ หรือเปิดร้านค้าออนไลน์เป็นของตัวเอง การจัดส่งสินค้าถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้า

แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น อาจสงสัยว่า จะใช้บริการส่งของออนไลน์ได้อย่างไร? ต้องเตรียมอะไรบ้าง? มีขั้นตอนแบบไหน? บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจพื้นฐาน เพื่อให้เริ่มใช้งานได้อย่างมั่นใจ

ทำความเข้าใจว่าบริการส่งของออนไลน์คืออะไร

บริการส่งของออนไลน์ คือ ระบบจัดส่งพัสดุที่สามารถเรียกใช้ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือแอปพลิเคชันโดยไม่จำเป็นต้องไปที่สาขาด้วยตนเอง ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขายสามารถส่งสินค้าได้จากบ้าน ร้าน หรือคลังสินค้า โดยสามารถติดตามสถานะพัสดุ ตรวจสอบค่าขนส่ง หรือเรียกรถเข้ารับของได้ผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด

5 เรื่องน่ารู้ก่อนเริ่มใช้บริการส่งของออนไลน์

1. เตรียมข้อมูลพื้นฐานให้พร้อมก่อนเริ่มส่งของ

ก่อนใช้บริการส่งของออนไลน์ ควรเตรียมข้อมูลเหล่านี้ให้ครบถ้วน

  • ชื่อ-ที่อยู่ผู้รับและผู้ส่ง: ต้องเขียนให้ชัดเจนเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการจัดส่ง
  • รายละเอียดสินค้า: ขนาด น้ำหนัก และประเภทสินค้า (เช่น ของแตกง่าย ของแช่เย็น)
  • วันเวลาที่สะดวกให้เข้ารับพัสดุ (ถ้าเรียกรับถึงบ้าน)
  • งบประมาณในการส่ง: เพื่อเลือกบริการที่คุ้มค่าที่สุด

2. สมัครบัญชีผู้ใช้งานกับผู้ให้บริการขนส่ง

ผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะมีระบบสมาชิก ซึ่งคุณสามารถสมัครได้ฟรีผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน 

  • ตรวจสอบและติดตามสถานะพัสดุได้ง่าย
  • จัดเก็บข้อมูลที่อยู่ผู้รับสำหรับส่งซ้ำ
  • รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ส่วนลด หรือโปรโมชันพิเศษ

บางผู้ให้บริการยังมีระบบจัดการออเดอร์แบบครบวงจร เหมาะสำหรับร้านค้าที่มีการส่งของบ่อย ๆ

3. แพ็คสินค้าให้เรียบร้อยก่อนส่ง

การแพ็คของอย่างเหมาะสมเป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้การเลือกบริการจัดส่ง เพราะไม่ว่าผู้ให้บริการจะดีแค่ไหน ถ้าสินค้าไม่ถูกแพ็คอย่างปลอดภัย ก็อาจเสียหายระหว่างขนส่งได้

  • ห่อของด้วยวัสดุกันกระแทกถ้าสินค้ามีความเปราะบาง
  • ใช้กล่องหรือซองให้พอดีกับขนาดสินค้า
  • ปิดผนึกแน่นหนา พร้อมติดป้ายชื่อผู้รับ-ผู้ส่งให้ชัดเจน

4. เลือกประเภทบริการส่งของออนไลน์ให้เหมาะกับความต้องการ

บริการส่งของออนไลน์มีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น

  • ส่งแบบปกติ: ค่าขนส่งไม่สูง เหมาะกับการส่งทั่วไป
  • ส่งด่วน: ได้รับของเร็วภายใน 1-2 วัน เหมาะกับสินค้าที่ต้องการความเร่งด่วน
  • เก็บเงินปลายทาง (COD): ลูกค้าชำระเงินเมื่อได้รับของ เหมาะกับผู้ซื้อที่ไม่สะดวกโอนก่อน
  • เรียกรับพัสดุถึงบ้าน: สะดวก ไม่ต้องออกไปส่งเอง

การเลือกให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าและลักษณะของสินค้า จะช่วยเพิ่มความประทับใจและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ

5. ติดตามพัสดุและแจ้งลูกค้า

หลังจากส่งของ อย่าลืมแจ้งเลขพัสดุ (Tracking number) ให้ลูกค้าทราบ เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตามสถานะสินค้าได้ด้วยตนเอง ถือเป็นขั้นตอนเล็ก ๆ แต่ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้อย่างมาก

การใช้บริการส่งของออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด หากคุณเข้าใจขั้นตอนพื้นฐานและเตรียมตัวให้ดีตั้งแต่ต้น ไม่ว่าคุณจะเป็นแม่ค้าหน้าใหม่หรือเจ้าของธุรกิจออนไลน์มือสมัครเล่น ก็สามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างมืออาชีพแล้ว!