ปิ้งหนูท้องขาว ของแซบอีสาน

ปิ้งหนู

ถ้าหากได้ยินเมนูปิ้งหนู อย่าฟ้าวหยี๋ปากเด้อพี่น้อง หารู้ไม่มันคืออาหารชั้นเลิศของอีสาน มาดูกันเสียก่อน อีสานร้อยแปดสิเว้าสู่ฟัง

หลายๆท่านคงจะเคยเบิ่งรายการต่างประเทศ ที่เขาทำเมนูแปลกๆขึ้นภัตราคารอาหารห้าดาว เช่น “ปลาไหลย่าง” , “กบย่างสมุนไพรห้าดาว” ปาดธิโธ่ นี่มันอาหารบ้านข่อยชัดๆ ปิ้งกบ ปิ้งเอียน ธรรมดาๆ นี่เอง เพียงแต่เขาเอาไปโปรโมท สร้างเรื่องราวความเป็นมาให้น่าสนใจ หรือ เอิ้นว่าสร้าง “Story” นั่นเอง จนทำให้ชาวต่างชาติมาเห็นเข้า เลยกลายเป็นเมนูสุดพิเศษที่ต้องหาชิมลิ้มลองให้ได้ ทำให้สร้างมูลค่าทางการค้า จนเอาขึ้นห้างหรู เงินก็ไปเข้าเจ้าของห้างใหญ่ แต่ต้นตำรับรสชาติแท้ๆ ที่มาจากอีสานบ้านเราจะมีซักกี่คนที่เข้าถึงจริงๆ

ขายหนูนาริมทาง

ขายหนูนาริมทาง

นั่นเพราะเขามีเงินในการโปรโมท สร้างมูลค่าขึ้นมาได้ เฮากะบ่ได้น้อยหน้าเด้ครับพี่น้อง มีเว็บไซท์เล็กๆอย่างอีสานร้อยแปดของเฮา แต่ว่ามาซอยกันเผยแพร่สร้างมูลค่าให้กับสิ่งที่มีอยู่ในชุมชนบ้านเราให้คนทั่วโลกได้เห็น

เอาหละครับพรรณามาโดน เข้าเนื้อหากันเลย พบกับเมนูเด็ดวันนี้ นั่นก็คือ “ปิ้งหนูท้องขาว” ภาษากลางเรียก “หนูดาวดึงห์” ภาษาอังกฤษเรียก “Rat of Heaven” พุ่นแหล่ว ฟังแค่ชื่อก็น่าสนใจแล้ว

เราจะมาพูดถึงส่วนประกอบในการทำปิ้งหนู :

1. หนูท้องขาวตัวโตเต็มวัย เกิดในภาคอีสาน จังหวัดไหนก็ได้ ฤดูในการล่าจะต้องเป็นฤดูหน้าหนาวเท่านั้น

2. กระเทียมโทน สำหรับการหมัก นำเข้าจากศรีษะเกษ

3. เกลือสินเธาว์ ที่ผ่านการต้มอย่างพิถีพิถัน จากจังหวัดหนองคาย

4. ไม้หีบสำหรับการปิ้ง ทำจากไม้ส่างไพ (ต้องเลือกลำต้นที่โตเต็มวัย ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป)

5. ถ่านไม้ค้อ หรือ ไม้มะขาม

“หนูท้องขาว” ว่ากันว่าเป็นพญาแห่งหนูในภาคอีสาน ไม่ใช่หนูที่อาศัยอยู่ในรู ไม่ใช่หนูที่หากินเศษซากอย่างที่หลายๆคนคิดนะครับ หลายๆท่านคงชินตากับหนูที่เจอตามกองขยะเป็นสัตว์สกปรก ให้ลืมภาพนั้นไปได้เลยนะครับ เพราะว่าหนูท้องขาวที่เราจะพูดถึงนี้ อาศัยอยู่บนต้นไม้ ทำรัง หรืออยู่ตามโพรงไม้สูงๆเหมือนนก อาศัยกินเมล็ดพืช ผลไม้ ดอกหญ้า และพวกแมลงต่างๆ หรือไม่ก็หอยที่เริ่มจำศีลในหน้าหนาว

รังหนูนา

รังหนูนา

ถ้าเริ่มหนาวมากๆหนูพวกนี้จะกินแต่พืชอย่างเดียว รักสะอาด รักสุขภาพ ยิ่งเป็นหนูที่อยู่ตามหัวไร่ปลายนาในอีสานบ้านเราแล้วละก็ อยู่ห่างไกลมลพิษ และพวกขยะต่างๆแน่นอน ว่ากันว่าสะอาดกว่า ไก่ ปลา ที่เลี้ยงให้กินขี้ในฟามเสียอีก อีกอย่างหนูท้องขาวบ้านเรา มีอิสระไม่ได้อยู่ในฟามเลี้ยง กว่ามันจะโตมาให้เราทำอาการ มีโอกาสได้สัมผัสพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก นอนชมดาว ดูกบกินเดือน ชีวิตมันโรแมนติกจริงๆ ฮ่า ๆๆ

การปิ้งหนูนานั้นหลังจากที่จับตัวมันมาได้ ก็ทำการลอกหนังตัดหัว เอาเครื่องในออกให้หมด หมักด้วยเกลือสินเธาว์จากน่านน้ำเมืองหนองคาย ดับคาวด้วยกระเทียมโทนจากแขวงศรีษะเกษ พอเข้าน้ำเข้าเนื้อแล้วก็เอาไปย่างให้เหลืองๆ กลิ่นหอมจะลอยมาแต่ไกล แต่จมูกจนแทบหงายหลัง จังงังในความหอมเลยทีเดียวครับ จะย่างแบบไฟแรง หรือ ไฟอ่อนก็แล้วแต่จะสะดวก แค่คอยเฝ้าไม่ให้มันไหม้เกรียมมากจนเกินไปเท่านั้นเอง

ปิ้งหนู ด้วยไฟแรง

ปิ้งหนู ด้วยไฟแรง

ย่างหนูด้วยไฟอ่อน

ย่างหนูด้วยไฟอ่อน

ไม่นานเราก็จะได้เมนูสุดหายาก นั่นคือปิ้งหนูท้องขาว ที่หากินได้เฉพาะช่วงหน้าหนาวครับพี่น้อง เป็นตาแซบอีหลี

ปิ้งหนูท้องขาว

ปิ้งหนูท้องขาว


กรุณาแสดงความคิดเห็นของคุณ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*