Breaking News

Popular News

Enter your email address below and subscribe to our newsletter
เมื่อพูดถึง “ไอดิน” ภาพพจน์ที่ติดอยู่ใ…
ผู้คนในภูมิภาคอีสาน มีอาชีพหลักคือเกษตร…
บุญบั้งไฟ เป็นประเพณีที่เกิดจากความเชื่…
“บุญผะเหวด” เป็นสำเนียงชาวอ…
ภูมิภาคอีสาน นอกจากมีการเล่านิทาน เล่าเ…
ประเพณีการสู่ขวัญ เป็นประเพณีตามศาสนาพร…
ฟ้อนตังหวาย เป็นชุดการแสดงเมื่อ นายประดิษฐ์ แก้วชิน ได้ไปพบการแสดงนี้ในอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เห็นว่าการแสดงหมอลำตังหวายมีทำนองสนุกสนาน จึงได้ทดลองให้เด็กนักเรียนมาฝึกหัด แล้วนำออกไปแสดงในงานปีใหม่ ที่ทุ่งศรีเมืองกลางเมืองอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ.2514
ฟ้อนเผ่าไทภูพาน ใช้ผู้แสดงหญิง 10 คน เผ่าละ 2 คน โดยมีลำดับการออกของแต่ละเผ่า ดังนี้ เผ่าผู้ไท เผ่าย้อ เผ่ากะเลิง เผ่าโส้ และเผ่าแสก สุดท้ายทุกเผ่าจะฟ้อนร่วมกัน เป็นนัยบอกว่า แม้ต่างเผ่า ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
ฟ้อนไทพวน ประดิษฐ์และออกแบบโดยชมรมนาฏศิลป์หนองคาย จากนั้น วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬศิลป์ ได้นำไปเผยแพร่ต่อ การแต่งกาย เป็นแบบประยุกต์ด้วยชุดที่ได้รับอิทธิพลแบบไทลื้อ โดยมีเสื้อที่ดัดแปลงมาจากชุดไทลื้อ นุ่งซิ่นมุกต่อตีนจกแบบไทพวนแท้ๆ ใช้ผ้าขิดลายขาว-ดำ พันศีรษะ
การฟ้อนแคน นำเสนอบรรยากาศการเกี้ยวพาราสี เล่นสนุกสนานกันระหว่างหนุ่มสาวชาวบ้าน โดยใช้แคนเป็นอุปกรณ์หลัก หรือเป็นสื่อ ดนตรี บรรเลงจังหวะเซิ้ง โดยใช้ลายเต้ยโขง, เต้ยธรรมดาออกลายลำเพลิน
ฟ้อนแขบลาน หรือฟ้อนแถบลาน คือการฟ้อนรำที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน โดยชาวบ้านเผ่าไทลาวในเขตอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นการฟ้อนรำประกอบการขับกาพย์เซิ้งเพื่อประกอบในพิธีการทำบุญหลวงหรือบุญบั้งไฟ เพื่อขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ในพิธีกรรมนี้จะมีการจุดบั้งไฟถวายเจ้าพ่อผาแดง
ฟ้อนเอ้ดอกคูน คำว่า เอ้ เป็นภาษาอีสาน หมายถึงการประดับ ตกแต่ง จัดแจงให้สวยงามวิจิตร เอ้ดอกคูน จึงหมายถึง การประดับตกแต่ง จัดแจงดอกคูนให้สวยงาม งดงามวิจิตร ซึ่งเป็นจินตภาพอันได้จากความงดงามของดอกคูนที่บานสะพรั่งเหลืองอร่ามแซมด้วยใบเขียว พลิ้วโอนไหวยามต้องลม