
Newsletter Subscribe
Enter your email address below and subscribe to our newsletter
Enter your email address below and subscribe to our newsletter
ในสมัยนั้นได้มีการสร้างป้อมปราการ 14 แห่งเพื่อป้องกันพระนครแต่เมื่อเวลาผ่านไป ปัจจุบันป้อมปราการหมดความจำเป็นจึงถูกรื้อถอนไป ป้อมพระสุเมรุเป็น1ใน2ป้อมที่ยังคงเหลืออยู่ ของฝั่งพระนครอีกป้อมหนึ่งคือป้อมมหากาฬ โดยยังคงมีแนวประตูยอดและกำแพงเมืองบริเวณด้านเหนือ ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ถนนพระสุเมรุ บูรณะเมื่อ พ.ศ. 2554 เป็นประตูเมืองตามแบบในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นประตูยอด แตกต่างจากประตูดั้งเดิม ที่เป็นไม้ทาดินแดง สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 และประตูก่ออิฐข้างบน ซึ่งใช้เป็นหอรบในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นร่อยรอยแนวกำแพงเมืองแต่เดิมไปยังป้อมมหากาฬ ชื่อถนนพระสุเมรุได้นำมาจากชื่อป้อมพระสุเมรุ
– พ.ศ. 2524 กรมศิลปากรได้ซ่อมแซมบูรณะตามรูปแบบเดิมจากภาพถ่ายในรัชกาลที่ 5 จนแลดูสง่างามเหมือนเดิมและยังปรับปรุงบริเวณโดยรอบให้เป็นสวนสาธารณะอีกด้วย โดยใช้ชื่อว่า สวนสันติชัยปราการ มีพลับพลาชื่อว่า พระที่นั่งสันติชัยปราการ ใช้สำหรับพระราชพิธีทางชลมารถ มีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยที่โดดเด่นทางด้านการแกะสลักไม้และหน้าบรรณ จากสวนสันติฯสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและสะพานพระราม 8 ชัดเจน ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น มีสนามหญ้าไว้ให้สำหรับชาวบ้าน ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้มานั่งพักผ่อนหย่อนใจ ชื่นชมบรรยากาศทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ผู้คนจึงนิยมมาออกกำลังกายและร่วมกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมที่จัดขึ้นตลอดปี เช่น การแสดงละคร ดนตรี และงานประเพณีต่างๆ ที่นี่เคยมีต้นลำพูต้นสุดท้ายของบางลำพูยืนต้นอยู่ ก่อนที่จะตายไปในอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปีพ.ศ.2554 ในปัจจุบันมีการปลูกทดแทนขึ้นมาใหม่
– ชุมชนโดยรอบป้อมพระสุเมรุคือ ชุมชนบางลำพู ที่มีความเข้มแข็งด้านการมีส่วนร่วมสูงเช่นเดียวกับชุมชนป้อมมหากาฬ