การเลี้ยงปลาทอง
ปลาทอง เป็นปลาอีกหนึ่งชนิดที่มีความสวยงาม มีลักษณะคล้ายปลาไน มีหลากหลายสี มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน และประเทศไทยมีการนำเข้ามาขยายพันธุ์จนได้มีปลาทองสายพันธ์ใหม่เกิดขึ้น ซึ่งมีสีสันสวยงาม โดดเด่น แปลกแตกต่างไปจากปลาทองดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็น สีทอง สีเทา สีส้ม สีขาว สีแดง จนมีการพัฒนาสายพันธุ์จนกระทั่งมีลักษณะเด่นที่สวยงาม จึงทำให้ปัจจุบันพบว่าหลายคนนิยมนำมาเลี้ยงไว้ดูเพื่อความเพลิดเพลิน สบายตา ทำให้รู้สึกเย็นสบาย สดชื่น บางคนมีความเชื่อว่าถ้าหากเลี้ยงปลาทองจะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคล มีโชคลาภเหมือนชื่อ ปลาทอง ช่วยให้ที่อยู่อาศัยร่มรื่น ร่มเย็น มีความสุขกายสบายใจ มีอำนาจวาสนาที่ดี ช่วยเสริมบารมีสำหรับคนเลี้ยงและสมาชิกภายในบ้าน สำหรับท่านใดที่ทำอาชีพค้าขาย จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจ มีเงินทองไหลมาเทมา
การเลี้ยงปลาทองก็มีหลากหลายปัจจัยแตกต่างกันออกไป สำหรับการเลี้ยงปลาทอง นอกจากจะเพื่อความสวยงาม เพื่อเสริมดวง เสริมบารมีแล้ว ผู้เลี้ยงปลาทอง จะต้องรู้จักการเลี้ยงปลาทองที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ปลาทองตายง่าย ซึ่งแท้จริงแล้วส่วนใหญ่ปลาทองจะมีช่วงชีวิต ประมาณ 7-8 ปี มากสูงสุดถึง 20 ปีเลยทีเดียว แต่ก็มีน้อยมากๆๆ ที่มีจะอายุยาวนาน เชื่อว่าหลายท่านที่เคยเลี้ยงเลี้ยงปลาทอง อาจเจอปัญหาเดียวกันคือ ปลาทองตายง่าย ทั้งนี้ การเลี้ยงปลาทอง ที่ถูกต้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ปลาทองอายุสั้น
การเลี้ยงปลาทอง ควรคำนึงถึง 4 ปัจจัยหลักที่สำคัญๆดังนี้
1.ภาชนะในการเลี้ยงปลาทอง
การเลี้ยงปลาทองไม่ใช่เรื่องยาก แต่ควรใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นการเลือกสถานที่เลี้ยง ภาชนะในการเลี้ยงปลาทอง เพื่อให้ปลาทองมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ตายง่าย มีความสวยงาม โดยการเลือกภาชนะที่มีความเหมาะสม ซึ่งปกติภาชนะที่นิยมนำมาเลี้ยงปลาทอง ได้แก่ ตู้กระจกใสและอ่างซีเมนต์ แต่การเลี้ยงในตู้กระจกใสและอ่างซีเมนต์ ควรระมัดระวังและพิถีพิถันในการเลือก หากคุณต้องการเลี้ยงปลาทองในตู้กระจก ควรเลือกขนาดที่สามารถบรรจุน้ำได้อย่างน้อย 40 ลิตร สามารถเลี้ยงปลาทองได้ถึง 12 ตัว หรือถ้าหากต้องการเลี้ยงปลาทองในอ่างซีเมนต์ ควรเลือกตำแหน่งการวางอ่างซีเมนต์ที่มีแสงสว่างเพียงพอและเหมาะสม ไม่จ้าหรือไม่ทึบมากจนเกินไป และควรมีตาข่ายพรางแสงด้วยในการใช้ปิดปากบ่อ และควรมีลักษณะของบ่อซีเมนต์ที่มีความลาดเอียง ทั้งนี้ เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด ถ่ายเทน้ำ เลี้ยงปลาทอง
2.การให้อาหารปลาทอง
สำหรับการให้อาหารปลาทอง ถือว่ามีความสำคัญต่อการเลี้ยงปลาทองเช่นกัน และที่นิยมในการนำมาเลี้ยงปลาทอง คือ อาหารสำเร็จรูป ลูกน้ำ หนอนแดง สำหรับอาหารสำเร็จรูป ควรให้วันละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรให้ปลาทองกินอาหารเกินความจำเป็น เพราะจะเสี่ยงต่อชีวิตของปลาทองด้วย ส่วยลูกน้ำและหนอนแดงอาจให้เป็นอาหารเสริม แต่ไม่ควรมากจนเกินไป ควรให้อาหารปลาทอง ในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกายของปลาทอง แต่ละตัว โดยสังเกตลักษณะของปลาทองแต่ละตัวได้จากบริเวณโคนหาง ความกว้างของลำตัว สีของปลาทองที่มีสีสันสดใส เป็นต้น
3.ควรเช็คคุณภาพของน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาทอง
คุณภาพของน้ำสำคัญต่อการเลี้ยงปลาทอง และถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด หากใครที่ต้องการเลี้ยงปลาทอง ดังนั้น ก่อนการเลี้ยงปลาทอง หรือการเปลี่ยนน้ำปลาทองทุกครั้ง ควรใส่ใจทุกรายละเอียด สำหรับน้ำประปาที่นำมาใช้ควรระมัดระวังคลอรีน อาจใช้วิธีเปิดน้ำใส่ถังแล้วนำมาวางตากแดดเพื่อให้คลอรีนที่อยู่ในน้ำประปาระเหย อีกหนึ่งวิธีคือการติดตั้งเครื่องกรองน้ำและใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติในการกำจัดคลอรีน จะสามารถช่วยเรื่องคุณภาพของน้ำที่นำมาใช้เลี้ยงปลาทองได้
4.ออกซิเจนในน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาทอง
นอกจากน้ำที่มีความสำคัญต่อการเลี้ยงปลาทองแล้ว อากาศหรือออกซิเจนก็มีความสำคัญ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรละเลยอย่างเด็ดขาด น้ำที่ใช้เลี้ยงจะต้องมีการหมุนเวียนในน้ำทั้งนี้เพื่อทำให้เกิดการเติมออกซิเจน โดยเฉพาะระบบกรองน้ำ น้ำพุ น้ำตก เป็นต้น และควรมีอุณภูมิของน้ำในตู้หรือในอ่างที่มีความเหมาะสมต่อการเลี้ยงปลาทอง สำหรับปลาทองขนาดใหญ่ควรมีอุณภูมิ 28-35 องศา ถ้าหากเพิ่งซื้อปลาทอง ก่อนการนำปลาลงในตู้ บ่อ อ่าง ที่ใช้เลี้ยงปลาทอง แนะนำให้แช่ถุงลงบ่อ ตู้ วิธีนี้จะช่วยปรับอุณภูมิของน้ำในถุงและในตู้ ในอ่าง ให้ใกล้เคียงกัน ก่อนที่จะปล่อยปลาลงน้ำในภาชนะที่เราเตรียมไว้สำหรับเลี้ยงปลาทองนั่นเอง
By.Arnada