ภาษาอีสานหมวด "ก" 571 - 580 จาก 1872

  • กล้วยทะนี
    แปลว่า : กล้วยตานี กล้วยทะนีมีเมล็ดเวลาสุกไม่หวาน ใช้ตำส้มดี.
  • กล้วยทะนีออง
    แปลว่า : กล้วยน้ำว้า ลูกกลม รสหวาน.
  • กล้วยน้อย
    แปลว่า : ต้นพุทธรักษา ชื่อพรรณไม้ดอกชนิดหนึ่ง เป็นพุ่มคล้ายดอกพุดดอกที่มีกลิ่นหอมเย็นในเวลากลางคืน เรียก ต้นดอกกล้วยน้อย.
  • กล้วยหมูสี
    แปลว่า : กล้วยหอม ลูกกลมเล็ก มีรสหวาน.
  • กลอง
    แปลว่า : เครื่องตีทำด้วยไม้ มีลักษณะกลมกลวง หุ้มด้วยหนัง หุ้มหน้าเดียวก็มี หุ้มสองหน้าก็มี มีทั้งเล็กและใหญ่ สั้นก็มี ยาวก็มี กลองชนิดเดียวกันเมื่อนำไปใช้ในกรณีต่างกัน ก็มีชื่อเรียกต่างกัน ก็ได้นำชื่อกลองแต่ละชนิดมาเรียงไว้ เผื่อสะดวกแก่การจดจำ.
  • กลองกิ่ง
    แปลว่า : กลองก้นแหลม ปากกว้าง หุ้มหน้าเดียว ทำเป็นคู่ใช้ไม้ตี ไม้ที่ตีหล่อตะกั่วติดที่ปลายไม้เท่าลูกหมากสุก ใช้ไม้ 2 อันตีกลอง 2 หน้า ด้วยมือข้างละอัน ตีแข่งกันในเทศกาลออกพรรษาหรืองานขึ้นปีใหม่ งานบุญบั้งไฟ กลองชนิดนี้เรียก กลองกิ่ง กลองเส็ง ก็ว่า.
  • กลองเกา
    แปลว่า : ชื่อกลองชนิดหนึ่งซึ่งพระยานาคตีขับกล่อมสังข์ศิลปชัย สีโหและสังข์ทองพร้อมด้วยมารดา ในปราสาทที่พระวิสสุกรรมสร้างถวายในป่า อย่างว่า กลองเกาไค้ตุรีย์เสียงสูรปี่ นาคหนุ่มเปลื้องเพศเพี้ยงสาวซ้อยสอดสะเอ็ง(สังข์) เกากลองนันลื่นลมกวนฟ้า (ฮุ่ง).
  • กลองแก
    แปลว่า : กลองระมะนา กลองระมะนาที่ตีเข้ากับแก แกนี้ทำด้วยหอยสังข์ใช้แผ่นเงินหรือทองเป็นลิ้นเรียกแกสังข์แตรสังข์ก็ว่าแกสังข์นี้ใช้เป่าขับกล่อมพระยากุศราชเมื่อลาจากสมณเพศอย่างว่าฟังยินสุริยาดรย้ายกลองฆ้องกล่อมสังข์พิณพาทไค้แคนขลุ่ยขานซอแกสังข์สูรกล่อมพิณโพนโล้(สังข์)
  • กลองงัน
    แปลว่า : กลองเพลที่ใช้ตีในวัน ๗-๘ ค่ำ และ ๑๔-๑๕ ค่ำของทุกเดือน ใช้ตีในเวลาทุ่มเศษ การตีใช้ช่วงสั้นๆ เพียง ๓ บท เพื่อเตือนญาติโยมชายหนุ่มหญิงสาวลูกเล็กเด็กแดงภายในบ้าน ให้ออกมาทำวัตรสวดมนต์ หรือฟังคำสั่งสอนจากพระสงฆ์ .
  • กลองเดิก
    แปลว่า : กลองเพลที่ใช้ตีในเวลาตีสี่ ของวัน ๗-๘ ค่ำ และวัน๑๔-๑๕ ค่ำของทุกเดือน เมื่อถึงวันเช่นนี้พระสงฆ์ในวัดทุกวัดภาคอีสานจะลุกขึ้นตีกลองเพื่อเตือนญาติโยมให้รู้ว่า พรุ่งนี้จะเป็นวันพระแล้ว ให้เตรียมตัวเตรียมใจให้มารับศิลกินทาน กลองที่ตีในวันเช่นนี้ เรียกกลองเดิก.