
Newsletter Subscribe
Enter your email address below and subscribe to our newsletter
Enter your email address below and subscribe to our newsletter
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 33 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 50,000 ไร่ ครอบคลุมท้องที่อำเภอโขงเจียมและอำเภอสิรินธร สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบและเนินเขาเตี้ยๆ มียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุด มีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่านตามแนวเขตทางด้านทิศเหนือไปออกสปป.ลาว
คำว่า “ตะนะ” ตามบอกเล่าของชาวบ้านเป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า “มรณะ” เพราะบริเวณดังกล่าวมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวและมีโขดหินใหญ่น้อย ตลอดจนมีถ้ำใต้น้ำอยู่หลายแห่ง ชาวบ้านที่สัญจรทางน้ำหรือออกจับปลา มักประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ จึงเรียกแก่งแห่งว่า “แก่งมรณะ” ซึ่งต่อมาเพี้ยนเป็นคำว่า “แก่งตะนะ”
[ads1]
เป็นดอนหรือเกาะกลางที่เกิดขวางแม่น้ำมูล มีสะพานแขวนทอดข้ามทั้ง 2 ด้านของเกาะ ทางตอนเหนือมีหาดทรายเหมาะแก่การพักผ่อน บนดอนตะนะยังเป็นสภาพป่าดงดิบแล้งมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นในช่วงเช้า ส่วนช่วงเย็นจะมีการทำประมงของชาวบ้านรอบ ๆ เกาะ
ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 1 กม. เป็นชะง่อนผายื่นเข้าไปในฝั่งแม่น้ำมูล ภายในถ้ำค้นพบศิลาจารึกและแท่นศิวลึงค์ ส่วนของฐานโยนีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 12-13 ซึ่งตรงกับช่วงสมัยพระเจ้าศรีมเหนทรวรมัน ส่วนศิลาจารึกของจริงได้มีการนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอุบลราชธานี
เป็นจุดท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบค้างคืน เพราะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นลักษณะเดี่ยวกับผาชนะได แต่จะมองเห็นสองข้างของหน้าผา ด้านขาวจะเห็นเขื่อนสิรินธร ด้านซ้ายจะเห็นผืนป่าของสปป.ลาว ด้านหน้าจะเห็นหมู่บ้านของชาวลาวและภูเขาสูงตะง่านสลับ รวมถึงสะพานข้ามแม่น้ำโขงของลาวคือ สะพานปากแซ
เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาตามหน้าผา ผ่านรากไทรริมฝั่งแม่น้ำมูล บริเวณแห่งนี้ประกอบด้วยต้นเฟิร์น ตะไคร่น้ำ และมอส ทำให้อากาศเย็นสบายเข้าชมได้ตลอดปี ใครที่สนใจสามารถใช้เส้นทางเดี่ยวกับถ้ำพระ
[…] อุทยานแห่งชาติแ… more » […]