จาก “แคนา” สู่ “แคบ้าน”

สมัยเด็กน้อยแม่ใช้ให้ไปหาเก็บ “ดอกแคนา” เอามากินกับป่น เป็นอะไรที่สนุกมาก ต้องรีบไปแต่เช้าตรู่ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะไม่ทันเพื่อน เพื่อนอาจจะเก็บไปหมด เราอาจจะมือเปล่ากลับมา ไม่ได้กินของอร่อยแล้วอาจจะโดนแม่ดุอีกด้วย ฮ่า ๆ ๆ

ดอกแคนา หรือ ดอกแคป่า เป็นไม้ยืนต้น ที่ให้ดอกในช่วงหน้าหนาว แต่บางทีในช่วงหน้าร้อนก็ออกดอกให้เห็นบ้าง ถ้าสถาพดินมีความอุดมสมบูรณ์ ดอกสามารถนำมารัปประทานได้ คนอีสานบ้านเฮาเอามาลวกกินกับแจ่ว หรือ กินกับป่น เป็นอะไรที่เข้ากันมากๆ

จริงๆแล้วดอกแคนา ไม่ได้แค่ลวกกินอย่างเดียว หลายๆคนสามารถเอามายำ เอามาป่น สุดแล้วแต่ไอเดีที่เราจะนึกออก เพราะคนอีสานเก่งเรื่องพลิกแพลงการทำอาหารอยู่แล้ว

เมื่อก่อน ดอกแคนา หรือ ดอกแคป่านี้ สามารถหาเก็บได้ตามหัวไร่ปลายนา แต่สมัยนี้หาได้ยากมากๆ แทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ แต่ดอกแคนานี้เริ่มได้รับความนิยมนำมาเป็นต้นไม้ประดับ โดยเฉพาะตามปั๊มน้ำมัน ต้นไม้ใหญ่ๆ ให้ใบร่มเงาตลอดทั้งปี แถมยังให้ดอกที่มีกลิ่นหอม รัปประทานได้อีกซะด้วย เรียกได้ว่าเป็นต้นไม้ที่สารพัดประโยชน์จริงๆ นอกจากตามปั๊มน้ำมันแล้ว หลังๆเริ่มกลายเป็นที่นิยมสำหรับการเอามาปลูกในบ้าน เพราะด้วยความสารพัดประโยชน์อย่างที่เราได้บอกไปแล้วนั่นแหละ จากดอกแคป่า หรือ ดอกแคนา ทุกวันนี้จึงกลายเป็นดอกแคบ้าน

จะว่าไป แคนา ก็มองเหมือนวิถีชีวิตของลูกอีสาน หากเราเลี้ยงง่าย โตง่าย ไม่เรื่องมาก และทำประโยชน์ให้กับสังคมให้มากๆ ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ใครๆก็รัก ใครๆก็อยากจะให้อยู่ด้วย

จากดอกแคป่า เหมือนเด็กบ้านป่า ก็สามารถกลายเป็นคนที่ใครๆต้องมองมาเห็นคุณค่า ความดี หรือ คนดี ไม่ต้องพูดอะไรมาก สักวันหนึ่งจะมีคนมองเห็นคุณค่าของมันเอง อย่ามองว่าตัวเองต่ำต้อยหรือด้อยค่า หากวันนี้ยังเป็นลูกจ้าง ทำงาน ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายของตัวเองให้เต็มที่ เหมือนกับแคป่า หรือ แคนา ที่สามารถกลายมาเป็นแคบ้าน ที่ใครๆได้พึ่งพาอาศัย ใครๆก็อยากได้ไปปลูกในบ้านนั่นเอง