ภาษาอีสานมาใหม่ 6671 - 6680 จาก 17431

  • โอย
    แปลว่า : เสียงที่เปล่งแสดงความรู้สึกเจ็บปวด หรือรู้สึกแปลกประหลาดอัศจรรย์ว่า โอย โอ๊ย ก็ว่า.
  • โอมอ่าน
    แปลว่า : ปลุก เสก สาธยาย ท่องเสกมนต์ เรียก โอมอ่านมนต์ อย่างว่า ลือมันแท้ธรงมนต์โอมอ่าน กูก็ใกล้บ่ได้เยียวย้านท่านกระทำ (สังข์).
  • โอม
    แปลว่า : สู่ขอ สู่ขอหญิงมาเป็นภรรยาเรียก โอม อย่างว่า คันประสงค์ดอมน้องให้มาโอมต้านกล่าว (กา) กุมภัณฑ์แค้นเคืองมโนค้อยคั่ง รือจักใช้แอ่วอ้วนโอมน้องก็ใช่การ (สังข์).
  • โอม
    แปลว่า : คำสนธิของคำย่อ คำย่อคือ อะอุมะ เมื่อสนธิเข้ากันเป็น โอม ฝ่ายฮินดูหมายถึงพระเจ้าทั้ง ๓ คือ อะ หมายถึงพระศิวะ อุ หมายถึงพระวิษณุ มะ หมายถึงพระพรหม ข้างพระพุทธศาสนาเลียนเอามาเป็นพระรัตนตรัย (อะ หมายถึงพระพุทธเจ้า อุ หมายถึงพระธรรม มะ หมายถึงพระสงฆ์) คำว่า อะ อุ มะ หรือโอม นี้ถือว่าเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ เวท มนต์ คาถา ที่ขึ้นต้นด้วยโอมจึงถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ อย่างว่า ค้อมฮ่ำแล้วลาราชปรางค์ทอง ฮวายมนต์โอมแอ่วโพยมยังฟ้า แยงหนห้องกะไดทองเทวราช พ้นกีบฟ้าเขียวดั้นดุ่งเดิน (สังข์).
  • โอภาปราศัย
    แปลว่า : ทักทายด้วยความสนิทสนมเป็นกันเอง.
  • โอภา
    แปลว่า : ทักทายด้วยวาจาสุภาพ.
  • โอบ
    แปลว่า : เอาแขนอ้อมไว้ เช่น โอบต้นไม้เอาแขนกอดรัดไว้ เรียก โอบกอด อย่างว่า คึดเมื่อท้าวโอบอุ้มฟูมเฟื้อฝากเสน่ห์ (ผาแดง) ลูบไล้ด้วยของหอม เรียก โอบ อย่างว่า ละอองโอบแก้มสองข้างไขว่แถว (สังข์) ปกครอง เรียก โอบป้อง อย่างว่า เทื่อนี้พระโอบป้องเป็นแน่วในชล ปีเดือนถวายใส่พระคลังคำล้าน นครเฮาปั้นเป็นเกยทานทูบ ทวงท่องเท้าสองก้ำก่ายกะได (สังข์).
  • โอนเอน
    แปลว่า : เอนไปเอนมา ไม่มั่นคง ไม่แน่นอน.
  • โอนอ่อน
    แปลว่า : ผ่อนตาม ยอมตาม.
  • โอนอ
    แปลว่า : เป็นคำรำพึงในเวลาดีใจหรือเสียใจ หรือขึ้นต้นกลอนลำยาว ลำล่องโขง อย่างว่า โอนอชิได้พรรณาเรื่องลำโขงยาวย่าน น้ำมันไหลมาจากเขาทิเบตกว้างเหนือพุ้นล่วงลง ฮ้อยคดฮ้อยโค้งลำโขงยาวย่าน พอมาเหลียวเห็นก้ำเมืองหลวงพระบาง แจ้งขางข่าย เห็นแต่ภูเขาตั้งซ้ายล้ายเมืองนั้นอยู่กลาง (กลอน).