ค้นหา "มอง" 101 - 110 จาก 229

  • สอยลอย
    แปลว่า : ทิวทัศน์ที่มองเห็นในระยะไกล.
  • นิทเน่ง
    แปลว่า : นอน นอนหลับ อย่างว่า ท้าวกล่าวแล้วนิทเน่งเนานอน (กา) มีนานพร้อมเนานอนนิทเน่ง เดือนด่วนข้วมเขาเฮี้ยฮุ่งมา (สังข์) เสนาท้าวทังหลายนิทเน่ง บางพ่องกลั้นกวั่งไห้แสนชั้นแสบสมอง (ฮุ่ง).
  • บอด
    แปลว่า : มืด โง่ ทึบ คนตาดีมองเห็นอะไรได้หมด แต่ตาข้างในคือปัญญาไม่มี โบราณเรียกคนชนิดนี้ว่า ตาบอดแจ้ง อย่างว่า ตาบอดแจ้งบ่ฮู้ฮ่อมทางเดิน คันบ่แยงเงาหีนชิบอดตายเท้าเถ้า (ภาษิต) พระก็โมหังเข้าถือทวงใบ้บอด ก็เพื่อพิษแฝดไหม้เหมือนงั้วง่าวฟาง (สังข์).
  • บอด
    แปลว่า : มือ มองไม่เห็น คนมีตาแต่มองไม่เห็นเรียก คนตาบอด อย่างว่า ตาบอดเว้าเฝือน ตาเบือนเว้ายาก (ภาษิต) ตาบอดอย่าเอาฮ่วมเฮือน ตาเบือนอย่าเอาฮ่วมบ้าน คนขี้คร้านอย่าเอาเป็นหมู่เป็นฝูง (ภาษิต) เว้าจอดจอดบ่บอดกะฮ้าน (ภาษิต).
  • บัณฑิต
    แปลว่า : ผู้ทรงความรู้ ผู้มีปัญญา นักปราชญ์ อย่างว่า บัณฑิตล้ำธรงธรรมทัดเที่ยง ก็หากหายากแท้ในพื้นแผ่นดิน บาดว่าคนชั่วช้าหีนะโหดแนวพาล ก็หากมีมูลมองทั่วแดนดินด้าว (ย่า).
  • เบย
    แปลว่า : สร่าง ทุเลา เบาบาง อย่างว่า แม้นชิเนาในปรางค์บ่เบยเบาได้ (สังข์) เสเนศฮู้หมองหม้อมบ่เบย (หน้าผาก).
  • ปิ่น
    แปลว่า : ผินกลับมองดู อย่างว่า พ่อบ่เปื้องปิ่นหน้าคอยล้ำล่ำใผ แท้รือ (สังข์).
  • ปุน
    แปลว่า : มองดู อย่างว่า สองก็เฮียงมือน้อมสลอนแถวถันต่ำ สองแม่ป้าปุนเยี้ยมล่ำเล็ง (สังข์).
  • แป้งแหง้ง
    แปลว่า : การนอนหวายหน้า เรียก นอนแป้งแหง้ง อย่างว่า เสียงครกมองตำเข้าเดิกมามันม่วน ตำช้าช้าเสียงบอกยามซุก เดิกจั่งซุกเดิกจั่งซุก ตำเสียงสั้นสักกะลันน้ำน่ำ หกตำลึงหกตำลึงแตะแต้งแหล้งหงายลงแป้งแหง้ง (เจียง).
  • แปว
    แปลว่า : เปลวไฟเรียก แปวไฟ รูที่ลมเข้าออกเรียก แปวลม ช่องที่แดดส่องเข้าเรียก แปวแดด ทางที่น้ำไหลเรียก แปวน้ำ อย่างว่า เหตุว่าหมองหมื่นชั้นสองภาคเพ็งเสมอ เป็นดั่งแปวชะเลไหลหลีกคอนไคลได้ (สังข์).