Breaking News
Popular News



Enter your email address below and subscribe to our newsletter
ในบทความนี้จะอธิบายขั้นตอนการออกแบบ โคก หนอง นา และยกตัวอย่างไปพร้อมกันเพื่อให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ถ้ายังไม่รู้จักว่า โคก หนอง นา โมเดล คืออะไร? สามารถอ่านได้ที่บทความ โคก หนอง นา โมเดล และการออกแบบ โคก หนอง นา เพื่อปูความรู้ความเข้าใจพื้นฐาน ก่อนที่จะเริ่มลงมืออกแบบจริง
สามารถดาวน์โหลดรูปภาพนี้ไปใช้เพื่อเป็นต้นแบบการออกแบบได้โดยคลิกที่รูปภาพ
เมื่อเตรียมอุปกรณ์การออกแบบเสร็จแล้ว ต่อไปก็มาทำความเข้าใจกันก่อน ว่าขั้นตอนการออกแบบจะประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอนหลัก (แต่ละคนอาจจะแตกต่างมากหรือน้อยกว่านี้ได้)
การสำรวจพื้นที่จะมีข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องดูและบันทึกไว้ สามารถดูได้ในบทความ หลักการออกแบบ โคก หนอง นา และในบทความนี้ก็จะสรุปรายการที่ต้องสำรวจพื้นที่เป็นข้อ ๆ ดังนี้
นอกจากรายการข้างต้นแล้ว ขอบเขตของพื้นที่ก็ต้องวัดมาให้ชัดเจน โดยดูจากโฉนดที่ดิน หรือดูได้ในเว็บไซต์ระบบค้นหารูปแปลงที่ดิน ของกรมที่ดินก็ได้เช่นกัน
สมมุติพื้นที่สำรวจและวัดมาแล้ว เป็นพื้นที่ขนาด 5 ไร่ กว้าง 80 เมตร ยาว 100 เมตร มีถนนสาธารณะติดด้านทิศใต้
เราก็วาดพื้นที่สี่เหลี่ยม หรือพื้นที่รูปร่างอื่น ๆ ตามจริงลงบนกระดาษ โดยย่อส่วนในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รูปร่างที่มีสัดส่วนตามจริง
ในตัวอย่างพื้นที่จริงกว้าง 80 เมตร ยาว 100 เมตร เราก็ให้อัตราส่วนเป็น 1:400 หมายความว่า ระยะที่วาดลงในกระดาษ 1 เซนติเมตร จะเท่ากับระยะในพื้นที่จริง 400 เซนติเมตร
พื้นที่ตัวอย่างกว้าง 80 เมตร จะต้องวาดลงในกระดาษ A3 เท่ากับ 20 เซนติเมตร ส่วนด้านยาวของพื้นที่ตัวอย่าง 100 เมตร ก็ต้องวาดลงในกระดาษ A3 เท่ากับ 25 เซนติเมตร
ก่อนที่จะวาดลงกระดาษนั้น ควรจะขีดเส้นให้เป็นตาราง ช่องละเท่า ๆ กันทั้งหน้ากระดาษ เพื่อให้งานในการวาดและคำนวณพื้นที่
ในตัวอย่างนี้จะตีเส้นห่างกัน 1.25 เซนติเมตร (เท่ากับ 5 เมตรในพื้นที่จริง) ทั่วกระดาษทั้งแนวตั้งและแนวนอน
เมื่อวาดตารางอ้างอิงเสร็จแล้ว ก็วาดรูปร่างของพื้นที่ลงในกระดาษ โดยวาดตามอัตราส่วนที่กำหนด
สูตรในการคำนวณระยะที่จะวาดลงในกระดาษคือ ระยะในกระดาษ = ระยะจริง/(ส่วนกลับขออัตราส่วน)
เช่น ระยะในกระดาษ = 8,000/400 ดังนั้นระยะที่วาดลงในกระดาษจะเท่ากับ 20 เซนติเมตร เป็นต้น
และที่สำคัญคือต้องเขียนสัญลักษณ์ทิศเหนือกำกับไว้เสมอ เพราะการออกแบบจะมีเรื่องของทิศมาเกี่ยวข้องด้วย สามารถดูเพิ่มเติมได้ในบทความ หลักการออกแบบ โคก หนอง นา
มาถึงตรงนี้ก็เสร็จในขั้นตอนการสำรวจพื้นที่ ต่อไปจะเป็นการเอาข้อมูลที่สำรวจมาวิเคราะห์และสรุปเพื่อออกแบบต่อไป
เมื่อได้สำรวจพื้นที่แล้ว และความต้องการของเจ้าของพื้นที่แล้ว ต่อไปก็จะแปลความหมายสำหรับการออกแบบ ดูว่าอะไรเป็นข้อดีที่ที่ควรเสริมให้ดีขึ้นไป หรือว่ามีส่วนไหนที่เป็นข้อด้อย ก็ต้องหาวิธิแก้ไขปัญหา
ตัวอย่าง เช่น ถ้าพบว่าพื้นที่ตรงกลางเป็นที่ลุ่ม มีน้ำขังมาก ถ้าจะใช้พื้นที่บริเวณนี้ก่อสร้างบ้านหรือเป็นที่เลี้ยงสัตว์ ก็แก้ไขด้วยการถมดินขึ้นมาให้เท่ากับบริเวณอื่น ๆ แต่ถ้าดูแล้วว่าเหมาะที่จะเป็นแหล่งน้ำ ก็ขุดบริเวณนั้นซึ่งเป็นที่ลุ่มมีน้ำไหลมาขังอยู่แล้ว ก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก เป็นต้น
เมื่อวิเคราะห์และสรุปข้อมูลจากการสำรวจกับความต้องการออกมาแล้ว ต่อมาก็คือการเขียนกิจกรรมและองค์ประกอบภายในพื้นที่ กิจกรรมในที่นี้หมายถึงสิ่งที่จะทำหรือเกิดขึ้น เช่น การปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ ส่วนองค์ประกอบก็คือสิ่งที่จะมีหรือตั้งอยู่ เช่น ศาลานั่งเล่น ร้านค้า เป็นต้น
และจะต้องมีการแบ่งพื้นที่ให้แต่ละกิจกรรม เพื่อที่จะแบ่งพื้นที่ของเราออกเป็นส่วน ๆ โดยอ้างอิงตามขนาดพื้นที่ที่ได้แบ่ง เพราะแต่ละกิจกรรมจะใช้พื้นที่แตกต่างกัน เช่น นาข้าวใช้พื้นที่มาก อาจจะ 2 ไร่เป็นอย่างน้อย แต่ผักสวนครัวสำหรับบริโภคในครัวเรือนก็อาจจะใช้พื้นที่แค่ 1 งานหรือน้อยกว่านั้น
หลังที่ได้เขียนรายการกิจกรรมและเขียนขนาดพื้นที่ของแต่ละกิจกรรมแล้ว ต่อมาก็จะมาจัดกิจกรรมเหล่านั้น ลงบนพื้นที่ โดยจะต้องระบุขนาดที่เราได้ทำไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
กิจกรรมในพื้นที่ตัวอย่างจะมีขนาดแตกต่างกันไป ตารางอ้างอิง 1 ช่องจะมีเท่ากับพื้นที่ 25 ตารางเมตร สามารถสรุปได้ดังนี้
ยกตัวอย่างไม้ผล 2 งาน ก็ให้เราทำเครื่องหมายในช่องตารางอ้างอิงทั้งหมด 8 ช่อง หรือโรงเรือนปุ๋ย ก็ให้ทำเครื่องหมายในช่องตารางอ้างอิงทั้งหมด 2 ช่อง เป็นต้น
เมื่อจัดวางกิจกรรมต่าง ๆ ลงในพื้นที่ได้ลงตัวแล้ว จะเห็นว่าพื้นที่แต่ละกิจกรรมเป็นรูปสี่เหลี่ยม จึงต้องใส่รายละเอียดลงไปให้ใกล้เคียงของจริง เช่น สระน้ำ ก็ควรจะเป็นรูปร่างอิสระ โค้งเว้า เลียนแบบธรรมชาติ เป็นต้น
เป็นการใส่รายละเอียดลงไปเพิ่มเติม โดยเน้นให้สัดส่วนและขนาดถูกต้องตามจริง เช่น บ้าน อาคาร กว้าง ยาว กี่เมตร ต้นไม้เมื่อโตเต็มที่จะมีพุ่มขนาดประมาณกี่เมตร เพื่อที่จะให้เห็นภาพเมื่อต้นไม้โตเต็มที่แล้วจะไม่ไปเบียดบังหรือมีผลกระทบกับองค์ประกอบบอื่น ๆ
ในพื้นที่ตัวอย่าง จะมีพื้นที่ร้านค้าอยู่ติดถนน ตัวอาคารกว้าง ยาว กี่เมตร จะร่นระยะร้านค้าเข้ามาห่างจากถนนกี่เมตร จึงจะเหลือพื้นที่หน้าร้านให้รถเข้ามาจอดได้ เป็นต้น