อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ หนองคาย

ฮ่อ” คือกลุ่มคนชาวจีนกลุ่มหนึ่ง ที่อพยพเข้ามาซ่องสุมอยู่ที่ทางฝ่ายไทย เป็นพื้นที่หนึ่งที่อยู่ในไทยเมื่อสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพื้นที่ที่พวกฮ่อมาซ่องสุมอยู่ในขณะนั้นเป็นพื้นที่ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในตอนนั้น เป็นอาณาเขตของประเทศไทยอย่างแน่นอน กองกำลังพวกฮ่อเดินทางมายังหลวงพระบาง และมีท่าทีว่าจะเข้ามาตีเมืองหนองคายแล้วเป็นแน่ ซึ่งในตอนนั้นเรียกจังหวัดหนองคายว่า “หนองค่าย”

อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ (เดิม)

เมื่อมีกองกำลังจะข้ามาตีเมืองหนองคาย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงได้ โปรดเกล้าให้กรมทหารจัดทหาร 2 กองทัพ ไปตีกองกำลังฮ่อ โดยแบ่งกองกำลังออกเป็น2 กองด้วยกัน เพื่อตีกองทัพทางเหนือ และตีกองทัพทางใต้ ซึ่งทั้งกองกำลังฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้เองก็ได้ปราบฮ่อด้วยลูกปืนลูกระเบิดและปืนกลอีกมากมาย ทำให้กองกำลังฮ่อนั้นแพ้ราบคาบไปในปี 2429 แต่หลังจากที่ยกกองทัพไปปราบพวกฮ่อเสร็จสิ้นแล้ว ธรรมดาของสงครามที่จะต้องมีเหล่าผู้กล้าเสี่ยงชีวิตเข้าไปเพื่อบ้านเมือง ได้ล้มตายกันเป็นจำนวนมากยิ่งนักภายหลังจากการปราบฮ่อ จึงได้มีการจัดตั้งสร้าง “อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ” ขึ้นมา

อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ หนองคาย

จากประวัติศาสตร์เรื่องการปราบฮ่อในครั้งนั้น จึงมีการโปรดเกล้า สร้างอนุสาวรีย์เพื่อบรรจุอัฐิของเหล่าทหารกล้าที่ได้เสียชีวิตลงไปจากการปราบพวกฮ่อ และได้มีการบูรณะสร้างอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ.2492 ซึ่งเป็นการสร้างเพราะต้องการย้ายจากที่เดิมมาอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดหนองคาย แต่ก็ยังยกเอาตัวหนังสือและอัฐิมาไว้ที่นี่เช่นเดียวกัน ในการสร้างอนุสาวรีย์ปราบฮ่อแห่งนี้ สร้างเป็นเจดีย์สีขาวสะอาดตา แสดงให้เห็นถึงดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่ถวายชีวิตให้กับบ้านเมือง เพื่อรักษาแผ่นดินให้ยังคงอยู่ และรักษาชีวิตผู้อื่นเอาไว้ เจดีย์ประกอบด้วยฐานสี่เหลี่ยม สร้างด้วยรูปแบบศิลปะไทยประยุกต์ ซึ่งทั้ง 4 ทิศ 4 ด้านของอนุสาวรีย์ปราบฮ่อนั้น ประกอบไปด้วยคำบรรยาย 4 ภาษาด้วยกันมีทั้ง ภาษาไทย ภาษาจีน ภาษาลาว และภาษาอังกฤษ ให้ผู้คนที่เดินทางท่องเที่ยวผ่านไปมาที่แห่งนี้จะได้ทราบว่าอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ สร้างขึ้นมาเพื่ออะไร และมีความสำคัญต่อชาวจังหวัดหนองคายอย่างไร ในปัจจุบันนี้ อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ ตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดหนองคาย เป็นศักดิ์ศรีของชาวจังหวัดหนองคาย และให้ชาวจังหวัดหนองคายนั้นได้ระลึกอยู่เสมอว่าสถานที่แห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยเลือดเนื้อของบรรพบุรุษที่รักษาแผ่นดินไว้ได้

ในทุกปีจะมีการจัดบวงสรวงอนุสาวรีย์ปีละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการระลึกถึงดวงวิญญาณเหล่าทหารผู้กล้าในตอนนั้น มีการจัดบวงสรวงในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี นักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางไปในช่วงนี้อาจจะได้เห็นพิธีการบวงสรวงก็ได้ ที่ศาลากลางจังหวัดหนองคาย

ภาพ 360 องศา

แผนที่

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ

  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

กรุณาแสดงความคิดเห็นของคุณ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*