พระธาตุยาคู (พระธาตุใหญ่)

พระธาตุยาคู พระธาตุใหญ่

เมืองฟ้าแดดสงยาง ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ทางภาคอีสานที่อยู่กันมานมนานคงเคยได้ยินชื่อเมืองนี้มาก่อนแล้ว เพราะเป็นเมืองเก่าแก่โบราณที่เคยมีมา ซึ่งในปัจจุบันนี้เมืองโบราณนั้นก็เหลือเพียงแค่ซากให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นเท่านั้น เพราะสิ่งปลูกสร้างที่มีมานาน ต่างก็ย่อยสลายไปตามกาลเวลาที่เนิ่นนาน แต่ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ก็ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่ของเมืองฟ้าแดดสงยางเป็นอย่างมาก ปัจจุบันก็เป็นสถานที่สำคัญของกาฬสินธุ์ที่ถูกเล่าเรื่องราวผ่านสถานที่สำคัญๆ อย่าง พระธาตุยาคู พระธาตุของเมืองกาฬสินธุ์ที่ตอนนี้มีชื่อเสียงมากในแถบภาคอีสาน

เมืองโบราณ ฟ้าแดดสงยาง

เมืองโบราณ ฟ้าแดดสงยาง

ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีเมืองโบราณอย่างเมืองฟ้าแดดสงยางในสมัยก่อนเป็นที่ตั้งอยู่ในขณะนี้ ได้ทำการขุดพบซาก ขุดพบสิ่งปลูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งในทุกครั้งของการขุดพบนั้นก็จะได้พบกับอะไรมากมายที่ถูกซ่อนอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ และสถานที่แห่งนี้ก็มีเจดีย์ขนาดใหญ่เจดีย์หนึ่งที่เก่าแก่ ชาวบ้านทั่วไปที่นี่เรียกเจดีย์แห่งนี้ว่า พระธาตุยาคู เรียกได้ว่าพระธาตุยาคูแห่งนี้เป็นโบราณสถานที่ไม่ได้ถูกทำลายลงไปในสมัยก่อน เพราะสภาพก็ยังคงความเป็นเจดีย์เอาไว้อยู่ ก็จะมีแต่พระธาตุยาคูแห่งนี้เท่านั้นที่ไม่ได้ถูกทำลายให้สลายเหลือแต่ซาก ยังมีให้เห็นจนถึงคนรุ่นปัจจุบัน ลักษณะเด่นของเจดีย์พระธาตุยาคูก็คือ มีฐานเจดีย์รูปทรงแปดเหลี่ยม มีทางขึ้นทั้งหมด 4 ทิศด้วยกัน ซึ่งทุกสมัยเวลาผ่านไปในแต่ละสมัยก็จะมีการสร้างเพื่อปรับปรุงเจดีย์ในทุกยุค ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นการสร้างซ้อนทับฐานเดิม

ผังเมืองฟ้าแดดสงยาง

ผังเมืองฟ้าแดดสงยาง

พระธาตุยาคู แห่งนี้ เป็นโบราณสถานที่เก่าแก่มากที่สุดแล้วในจังหวัดกาฬสินธุ์ ชาวกาฬสินธุ์ให้ความเคารพพระธาตุยาคู ซึ่งเปรียบเสมือนกับความอดทน ผู้คนจึงเข้ามากราบไหว้กันบ่อยๆ ใกล้กับเจดีย์พระธาตุยาคูก็มีใบเสมาโบราณที่เก่าแก่ ถูกจารึกไว้ด้วยตัวอักษรสมัยโบราณ และภาพสมัยโบราณที่เล่าเรื่องราวผ่านทางใบเสมาเก่าๆอันนี้ ซึ่งถ้าเป็นนักโบราณคดีที่ชื่นชอบวัตถุโบราณอาจจะได้รับรู้เรื่องราวผ่านทางใบเสมาเก่าก็ได้

ใบเสมาเก่า

ใบเสมาเก่า

ชาวบ้านจะจัดงานบุญบั้งไฟในทุกปี อีกทั้งเพื่อบูชาพระธาตุยาคูด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวต้องการที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวให้ตรงกับเทศกาลบุญบั้งไฟแล้วจะต้อง เดินทางไปในช่วงเดือนพฤษภาคม เพราะอยู่ในช่วงที่กำลังเข้าฤดูฝนพอดี มีความเชื่อว่าเมื่อมีประเพณีบุญบั้งไฟ ก็คือการขอฝน คือการขอพรให้บ้านเมืองอยู่อย่างร่มเย็นและสงบสุข และความมหัศจรรย์ของการสักการะพระธาตุโบราณก็คือจะช่วยให้จิตใจมีความสงบสุข หลายคนจะใจเย็นมากยิ่งขึ้น มีความสุขุมในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น ชีวิตจะต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน.

แหล่งอ้างอิง:

  • https://www.touronthai.com/article/2728
  • http://www.oceansmile.com/E/Kalasin/PhatadYaku.htm

กรุณาแสดงความคิดเห็นของคุณ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*