ภาษาอีสานทั้งหมด 8771 - 8780 จาก 17431

  • วันยวง
    แปลว่า : เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นสู่ท้องฟ้า แล้วส่องแสงยาวลงมาเรียก วันยวง อย่างว่า เซ็งว่าสีหราชท้าวทังโลกเขาขาม เขาก็มายโมหังกล่าวพรถวายถ้อย คบหนึ่งวันยวงขึ้นบัวระพาพ้นทีป เจ้าจักเจียระจากอ้ายพระองค์อ้วนสั่งลา (สังข์).
  • วันราหู
    แปลว่า : วันหม่นหมอง วันไม่สะดวก ถ้าจะไปประกอบธุรกิจหรือทำการมงคล ห้ามหันหน้าหรือไปทางทิศนั้น ทิศที่ราหูอยู่โบราณให้โฉลกไว้ดังนี้ ทิตย์พา จันทร์บู คารหอ พุธทัก พฤหัสอุ ศุกร์ปัจ เสาร์อา.
  • วันลง
    แปลว่า : เวลาที่พระอาทิตย์ตกเรียก วันลง อย่างว่า เมื่อนั้นสะพรั่งพร้อมโดยแาชองค์กษัตริย์ ลาเร็งโญพรากลาลงห้อง พอเมื่อราตรีตั้งวันลงลับโลก ยามจูดใต้เฮืองห้องซู่ภาย (สังข์).
  • วันลุน
    แปลว่า : วันหลัง เรียก วันลุน อย่างว่า อันว่าศิลป์ชัยท้าวโพธิราชบาบุญ เอาไปขังใส่กระแจจำไว้ วันลุนเช้าชิเอามาปิ้งจี่ ลาบแลซั้วแกงส้มใส่งาย (สังข์).
  • วันโลกาวินาส
    แปลว่า : วันเสีย วันอาภัพ วันอัปมงคล เรียก วันโลกาวินาส วันโลกาวินาสโบราณให้โฉลกไว้ดังนี้ ทิตย์สี่สัน จันทร์หกฐาน คารสิบสุด พุธสามทัศ พฤหัสแปด ศุกร์เก้า เสาร์หนึ่ง จะทำการอันเป็นมงคลใดๆ ให้เว้นวันโลกาวินาส (ประเพณี).
  • วันวิ่ง
    แปลว่า : เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นบนท้องฟ้าหรือลงจากท้องฟ้า เรียก วันวิ่ง อย่างว่า พอเมื่อวันวิ่งคล้อยลับเหลี่ยมเสาเสมร ครุฑก็อำลาพระพรากคืนหาห้อง บาเล่าทวายทรงแก้วธนูทองก้าวแกว่ง ปืนล่วงเท้าเถิงถ้ำนาคคำ (สังข์).
  • วันวู่
    แปลว่า : ตะวันส่องแสงเรียก วันวู่ อย่างว่า วันวู่ต้องแสงเหลื้อมหลั่งสี (สังข์).
  • วันเวียน
    แปลว่า : เวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เรียก วันเวียน อย่างว่า คือคู่หิมเวศด้าวเดียระดาษไกสร กุมภัณฑ์ประสงค์สอดปุนไปยั้ง พอเมื่อวันเวียนค้ายคาสีแสงต่ำ เหมือยเร่งล้นพรมพั้วกาบกระจวน (สังข์).
  • วันศีลน้อย
    แปลว่า : วันขึ้น ๗ ค่ำ วันขึ้น ๑๔ ค่ำ วันแรม ๗ ค่ำ วันแรม ๑๔ ค่ำ ของเดือนเต็ม หรือวันแรม ๑๓ ค่ำของเดือนขาด ทั้ง ๔ วันนี้โบราณถือว่าวันศีลน้อย คนโบราณผู่เคร่งครัดในพระพุทธศาสนาจะปล่อยวัว ควายให้เป็นอิสระไม่ทำไร่ไถนา.
  • วันศีลใหญ่
    แปลว่า : วันขึ้น ๘ ค่ำ ขึ้น ๑๕ ค่ำ วันแรม ๘ ค่ำ แรม ๑๕ ค่ำของเดือนเต็ม หรือแรม ๑๔ ค่ำของเดือนขาด เรียก วันศีลใหญ่ ชาวพุทธทั้งที่เป็นพระและคฤหัสถ์จะเลิกละกิจของตน มาทำบุญสุนทร์ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา เพื่อเป็นบุญกุศลติดตามตนไปเมื่อเวลาตายแล้ว อย่างว่า เจ็ดมื้อเลี้ยงลูก มื้อแปดปลูกโพ โพกะบ่แม่นโพเฮาปลูก ลูกกะบ่แม่นลูกเฮาเลี้ยง (บ.).