การเลี้ยงหมูขุน

รูปประจำบทความ การเลี้ยงหมูขุน

เนื้อหมู ถือเป็นเมนูอาหารยอดนิยม ที่สามารถนำไปทำเมนูอะไรก็ได้หลายอย่าง ในปัจจุบันนี้มีผู้ประกอบการเลี้ยงหมูขุนไว้มากมาย เพราะมันขายได้แน่นอน สำหรับการเลี้ยงหมูขุนนั้นไม่ยาก ผลตอบแทนก็ได้เร็ว หลายคนเติบโตจากธุรกิจส่วนตัวได้ก็เพราะการเลี้ยงหมูขุน และอีกหนึ่งจุดเด่นก็คือ การเลี้ยงหมูขุน มักจะเลี้ยงได้ง่าย ไม่เป็นภาระมากจนเกินไป เลี้ยงง่ายกว่าดารเลี้ยงหมูแบบอื่นๆ

 พันธุ์หมูขุน

พันธุ์ลาร์จไวน์

พันธุ์ลาร์จไวน์

  • พันธุ์ลาร์จไวน์ เป็นหมูขุนที่มีรูปร่างขนาดใหญ่ ดูสะอาดสะอ้าน มีผิวขาวตลอดทั้งตัว ส่วนขนาดของหัวนั้นก็จะใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง ช่วงของลำตัวนั้นจะยาวหน่อย แต่ก็จะเล็กลงและแคบลงในช่วงของสะเอวของตัวหมู
พันธุ์แลนด์เรซ

พันธุ์แลนด์เรซ

  • พันธุ์แลนด์เรซ ถือว่าเป็นพันธุ์หมูที่มีคุณภาพมากอีกพันธุ์หนึ่งพอๆกับลาร์จไวน์เลยทีเดียว เพราะตัวของมันจะมีความยาว สีขาวทั้งตัว แต่จะใหญ่ช่วงสะโพกนิดหน่อย เนื้อตรงส่วนนี้จะมีคุณภาพมาก
พันธุ์ดูร็อคเจอร์ซี่

พันธุ์ดูร็อคเจอร์ซี่

  • พันธุ์ดูร็อคเจอร์ซี่ พันธุ์นี้เดิมทีแล้วเป็นพันธุ์พื้นเมืองของอเมริกา ซึ่งลักษณะที่จะเห็นได้ชัดก็คือ จะมีลำตัวสั้น ตัวเล็กลงมาหน่อย สีของตัวจะเป็นสีแดงเข้ม สันหลังจะมีความโค้ง และสีสันของหมูพันธุ์นี้มักจะค่อยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เข้มขึ้น

ส่วนการผสมพันธุ์หมูขุนนั้น มักจะทำการผสมรวมกัน 3-4 สายพันธุ์ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง

อาหารและการให้อาหาร

อาหารของหมูขุน จะไม่ใช่อาการแบบทั่วไปอย่างเช่นผักหญ้าที่ทำการเกษตรแล้วเหลือมา เพราะว่ากระเพาะของหมูขุนนั้น ไม่สามารถที่จะย่อยอาหารพวกที่มีเยื่อใยได้ดีนัก ดังนั้น จึงต้องใช้อาหารสำเร็จรูปแทน โดยใช้หัวอาหารสำเร็จรูปผสมกับรำข้าว หรือปลายข้าว หรือผู้ประกอบการบางคนก็ลดต้นทุนโดยการผสมอาหารสำเร็จรูปเองเพื่อเลี้ยงหมูขุน ให้อาหารทุกวัน วันละ 1 ครั้ง

การเลี้ยงดู

การเลี้ยงดู เรื่องแรกเป็นเรื่องของช่วงอายุของการเลี้ยงดู และการให้อาการ ซึ่งหลังจากที่ลูกหมูหย่านมแล้วเรียบร้อย ก็เริ่มดูแลอย่างเต็มที่และให้อาหารได้เลย ให้อาหารโปรตีนเต็มที่แบบวันละ 1-3 กิโลกรัมเลย และเมื่อหมูโตขึ้น น้ำหนักได้ประมาณ 60 กิโลกรัม ก็ให้อาหารวันละ 2-4 กิโลกรัมเพื่อเร่งการเจริญเติบโต อย่าลืมสิ่งสำคัญตลอดการเลี้ยงดู ก็คือจะต้องมีน้ำสะอาดให้หมูทุกวัน

โรงเรือนและอุปกรณ์

การสร้างโรงเรือนเพื่อเลี้ยงหมูขุน ควรที่จะสร้างให้ห่างไกลจากแหล่งชุมชน เพราะอาจจะรบกวนผู้คนในแหล่งชุมชนได้ทั้งกลิ่นและเสียง พื้นที่สำหรับเลี้ยงเพื่อสะดวกต่อการทำความสะอาด ควรสร้างด้วยพื้นคอนกรีต เพราะมันล้างได้ง่าย เพื่อความสะอาด ไม่ให้เกิดมีน้ำขังสกปรก ควรทำให้พื้นที่สูง เป็นดอน เพื่อไม่ให้น้ำขัง มันจะระบายน้ำและอากาศจะถ่ายเทได้ดี ส่วนการมุงหลังคา ไม่ว่าจะอุปกรณ์ใดก็ตาม ไม่ควรปิดแน่นทึบจนเกินไปเพราะอากาศจะไม่ระบายออก เน้นให้กันแดด ลม และฝน ให้ดีที่สุด

โรค การป้องกันโรค

โรคมักจะไม่ค่อยมี จะมีก็แต่พยาธิที่ต้องทำการถ่ายพยาธิให้กับหมูขุนทุกตัว เพราะว่ามันจำเป็น และเพื่อป้องกันโรคต่างๆต้องทำการฉีดวัคซีนตามนัดทุกครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีของหมูขุน และดูแลเรื่องของความสะอาดคอกหมู ไม่ให้อับชื้น ไม่ให้สกปรกและมีน้ำขัง เพื่อป้องกันเชื้อราหรือเชื้อโรคต่างๆ ที่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ นอกจากจะช่วยลดการหมักหมมแล้วยังช่วยลดกลิ่นที่จะออกไปรบกวนพื้นที่ใกล้เคียงด้วย

ต้นทุน

ต้นทุนสำหรับโรงเรือน และอุปกรณ์การเลี้ยงต่างๆที่สะดวกสบาย ก็จะอยู่ที่ประมาณ 2,000-5,000 บาท ส่วนเรื่องของอาหาร วัคซีน พันธุ์ของสุกรใน 1 รุ่นจะอยู่ที่ 7,000-8,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเรียกได้การลงทุนครั้งนี้ไม่มากนักสำหรับผู้ที่เริ่มต้น รวมๆแล้วเงินลงทุนก็อยู่ที่ 10,000-20,000 บาทโดยประมาณ

ผลตอบแทน

การจะออกจำหน่ายได้ มีทั้งการขายทั้งตัว และการชำแหละเนื้อขาย ซึ่งการชำแหละเนื้อขายก็มีสิทธิ์ที่จะได้ราคาดีกว่า ได้ผลตอบแทนที่มากกว่า และการขายทั้งตัว น้ำหนักที่จะสามารถขายได้ก็คือ 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาค่อนข้างดีมาก แต่ในบางครั้งผลตอบแทนที่ได้นั้นอาจจะเปลี่ยนไปได้นิดหน่อย เพราะว่าราคาของที่ลงทุนไปอาจจะมีการขึ้นลงของราคาตามเวลา ทั้งอาหาร ทั้งวัคซีน และราคาของพันธุ์หมูขุน

ข้อมูลและภาพประกอบ

  • หนังสือ 123 อาชีพเกษตรทางเลือก
  • https://moopakchong.org/knowledge/pig-breed/duroc-dld-pig.html
  • http://www.animals-farm.com/สุกรพันธุ์ลาร์จไวท์/
  • http://www.animals-farm.com/สุกรพันธุ์แลนด์เรซ/
  • https://brandinside.asia/alibaba-ai-raise-pig/

 


มี 1 บทความลิงก์มาที่การเลี้ยงหมูขุน

กรุณาแสดงความคิดเห็นของคุณ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*