ศาลาแก้วกู่ (วัดแขก) หนองคาย

จังหวัดหนองคาย เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีสถานที่และโบราณสถานมากมายให้นักท่องเที่ยวและคนไทยได้เรียนรู้ สิ่งปลูกสร้างที่ให้อารมณ์ขลัง ให้ความสวยงามแบบสมัยก่อน มีความเป็นไทยเก่า ไทยโบราณ เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของทางภาคอีสาน ที่มักจะมีสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชม สิ่งปลูกสร้างแต่ละอย่างที่ถูกสร้างขึ้นมานั้น มีประวัติศาสตร์เล่าต่อกันมาอย่างมากมาย เป็นสถานที่ที่ทุกคนต่างก็หวงแหน สิ่งปลูกสร้างที่ขึ้นชื่อมากๆในจังหวัดหนองคายก็คือ ศาลาแก้วกู่ หรือที่ชาวบ้านหรือคนคุ้นเคยกับ ศาลาแก้วกู่ จะเรียกว่า “วัดแขก” ซึ่งประกอบไปด้วยเรื่องราวต่าง ๆ และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังมีให้เราได้เข้าไปชื่นชมจนทุกวันนี้

วัดแขก

การเดินทาง

เมื่อเดินทางออกจากตัวเมืองหนองคายประมาณ 3 กิโลเมตร ท่านจะได้พบกับสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ที่เห็นได้เด่นชัดตั้งแต่อยู่ไกลๆก็คือ ศาลาแก้วกู่ มีความอลังการงานสร้างตามแบบฉบับของผู้สร้างที่ตั้งใจสร้างเอาไว้เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้ผู้คนทำความดี ไม่ทำอะไรไปในทางบาป

ศาลาแก้วกู่

ประวัติความเป็นมา

ตามที่ได้เล่าขานกันต่อมาถึงประวัติความเป็นมาของศาลาแก้วกู่ที่ยิ่งใหญ่ ผู้สร้างคือชายที่ชื่อบุญเหลือ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ปู่เหลือ” ซึ่งในสมัยนั้นท่านก็คงเป็นทั้งบุคคลที่ทำความดี เป็นทั้งนักพรตผู้ยึดมั่นในความดี เป็นที่ศรัทธาของชาวจังหวัดหนองคายเป็นอย่างมาก ท่านสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนยึดมั่นในความดี สร้างแต่ความดีตลอดชีวิต ศาลาแก้วกู่ถูกพัฒนามาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นสถานที่ที่อลังการและยิ่งใหญ่มาก เหมือนเราได้หลุดเข้าไปอีกเมืองหนึ่ง เป็นเมืองโบราณ ที่จะเห็นได้ว่า มีทั้งวัตถุโบราณ มีทั้งรูปปั้น เทวาลัย ที่ดูแล้วยังคงความเก่าแก่อยู่ ได้รับรู้ถึงอารมณ์ความขลังอย่างบอกไม่ถูก

ยิ่งใหญ่อลังการ

เมื่อมองจากด้านนอก วิวทั้งหมดของศาลาแก้วกู่ จะเป็นอุทยานเทวาลัยที่สวยงาม มีรูปปั้นขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอิริยาบถปางต่างๆ มีความสวยงามที่น่ามอง แต่ก็ยังคงความขลังไว้อยู่ มีรูปปั้นต่างๆที่พร้อมจะให้เราเข้าไปเรียนรู้ เข้าไปชม มีคำบรรยายให้อ่าน เปรียบเสมือนว่าศาลาแก้วกู่ เป็นสถานที่ที่รวบรวมวัตถุโบราณเอาไว้มากมาย ภายใต้ความยิ่งใหญ่ของศาลาแก้วกู่ ข้างในประกอบไปด้วยพระพุทธรูปโบราณ ซึ่งพระพุทธรูปบางองค์ มาจากประเทศลาว ก็ถูกเก็บไว้ที่จังหวัดหนองคาย และถูกเก็บเอาไว้ที่ศาลาแก้วกู่แห่งนี้

ศาลาแก้วกู่ วัดแขก

และในชั้นที่ 3 ของศาลาแก้วกู่ คือร่างของ “ปู่เหลือ”ผู้สร้างศาลาแก้วกู่ เพื่อความดีทั้งหลายทั้งปวง ทุกคนสามารถเข้าไปชมและศึกษาประวัติของท่านได้ ศาลาแก้วกู่ ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามเอาไว้ถ่ายรูปเพียงเฉย ๆ เท่านั้น ทั้งภายในและภายนอก แสดงให้เห็นว่า ผู้สร้างมีจุดประสงค์ให้ศาสนาของเรายังคงอยู่ และให้มนุษย์ดำเนินชีวิตไปบนเส้นทางแห่งความดี เห็นทุกข์ เห็นกรรม เห็นทางมีความสุขได้ สำหรับสถานที่แห่งนี้ คิดว่าคงเหมาะกับนักเดินทางสายบุญมากทีเดียว

แผนที่

ชมวิว 360 องศา

แหล่งอ้างอิง

 


กรุณาแสดงความคิดเห็นของคุณ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*