ประโยคสนทนาภาษาอีสาน 491 - 500 จาก 2286

คำว่า หัวบ่คืน

จังแม่นหัวคักหัวแหน่เนาะ กูว่าแม่นสิหัวบ่คืน แปลว่า หัวเราะจึงจังมาก กูนึกว่าจะหยุดหัวเราะไม่ได้

คำว่า บ่ต้องเว้า

บ่ต้องมาเว้าเลยเจ้าหั่น แปลว่า ไม่ต้องมาพูดเลยเธอนั่น

คำว่า จกตา

จกตากันอีกแล้ว สิบ่เซือสูแล้ว แปลว่า โกหกกันอีกแล้ว จะไม่เชื่อพวกเอ็งอีกต่อไป

คำว่า ตบแตก

ไปเว่าตบแตกก่อนจังค่อยเฮ็ด แปลว่า ไปพูดคุยตกลงให้เข้าใจกันทุกฝ่ายก่อนที่จะลงมือทำ

คำว่า เว้าบ่ม่วน

เจ้าคือเว้าบ่ม่วนแท้ แปลว่า ทำไมคุณพูดไม่เพราะจัง

คำว่า ตอนได๋

อ้ายสินอนตอนได๋ แปลว่า พี่จะนอนตอนไหน

ตอนได๋เจ้าสิไปนอน แปลว่า เมื่อไหร่คุณจะไปนอน

กินเข่าตอนได๋ แปลว่า กินข้าวตอนไหน

ตอนได๋สิเมือบ้าน แปลว่า เมื่อไหร่จะกลับบ้าน

ตอนได๋ หรือ ตอนใด๋ แปลว่า ตอนไหน , เมื่อไหร่ นั่นเอง

คำว่า บ่คือ

บ่คือ อย่าหาเฮ็ด แปลว่า ดูแล้วไม่เข้าท่า อย่าทำเลย
เบิ่งแล้วบ่คือปานได๋ แปลว่า ดูท่าทางแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดไว้เลย

คำว่า พ่อว่อแพ่แว่

พ่อว่อแพ่แว่หลาย อยู่ซือ ๆ แน แปลว่า อย่าเดินไปนู่นไปนี่ อยู่เฉย ๆ ได้ไหม

คำว่า เว้าแล้วกะไป๊

เว้าแล้วกะไป (พูดเสร็จแล้วก็ไป) เป็นคำพูดปิดท้ายหลังจากที่เราพูดเสร็จ แล้วต้องไปทำอย่างอื่นต่อ เป็นการบอกลา พูดเสร็จแล้วไปละ ประมาณนั้น

คำว่า คนพอกะเทิน

อ้ายมันคนพอกะเทิน กระโหลกกะลา บ่สมเจ้าดอก แปลว่า พี่มันคนกลาง ๆ ไม่เหมาะสมกับน้องหรอก จะเอาอะไรไปสู้