ประโยคสนทนาภาษาอีสาน 730 - 739 จาก 2286

คำว่า เกีย

คันเจ้าอยู่เฮือน ให้เกียหมูนำแหน่เด้อ ข่อยสิไปเอาบุญแอว
แปลว่า
หากคุณอยู่บ้าน ให้เอาอาหารให้หมูด้วยนะ ฉันจะไปงานแต่งงาน

คำว่า เกี่อย

เหมือนกับคำว่าเกี่ยย เช่น เกีื่อยน้ำ แปลว่า ตักน้ำ

คำว่า แกน

แกน หมายถึง ไหว ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง การสั่นหรือแกว่งนะ แต่หมายถึง ไหว ที่แปลว่า ทำได้

แกน มักจะใช้กับการยก การแบก เช่น

-ถงปุ๋ย ถงนี่ คือมาหนักคักแท้ บ่าวหน่อ กับบ่าวปอ แบกซ่อยกันสองคนกะยังแบกบ่ "แกน"
แปลว่า
-กระสอบปุ๋ย ใบนี้ หนักมากเลยนะ บ่าวหน่อกับบ่าวปอ ช่วยกันแบกตั้งสองคน ก็ยังแบกไม่ "ไหว"

หรือ
บ่าวหน่อ: ป้าด...บักโมหน่วยนี่คือหน่วยใหญ่คักแท้ น้องพอลล่ามา โจม เบิ่งเกิ่นหนะว่าหนักปานได๋ หรือว่า โจม บ่ "แกน"
น้องพอลล่า: ปะสาหน่วยส่ำนี่ ใหญ่กั่วนี่น้องกะ โจม "แกน"
แปลว่า
บ่าวหน่อ: โอ้โฮ...แตงโมลูกนี้ลูกโตมากเลยนะ น้องพอลล่ามา ยกดูหน่อยสิ ว่าหนักเท่าไหร่ หรือว่า ยกไม่ "ขึ้น "
น้องพอลล่า: ก็แค่ลูกแค่เนี้ย ใหญ่กว่านี้น้องก็ ยก"ไหว"

คำว่า ขนมเส้น

โอ้ยย อยากกินขนมเส้นเด้

คำว่า ขวง

บักอันนี่ คือขวงแท้

แปลว่า ไอ้นี่ทำไมขวางโลกจัง

คำว่า ข่วย

เอาไม้ข่วยกันไว้มันจังสิบ่ล้มเด้อ
แปล เอาไม้พาดกันไว้นะจ๊ะ

คำว่า ข่อนสิแจ้ง

มื้ออื่นไปแต่เช้าเด้อ ข่อนสิแจ้งเดี๋ยวข่อยสิไปเอิ้น

หมายถึง พรุ่งนี้ไปแต่เช้า ฟ้าสางจะไปเรียก

คำว่า ขาโต้ย

อิหล่า ลุกก่อน นั่งเต็งขาโต้ยพ่อ

แปลว่า

หนู ลุกก่อน นั่งทับโคนขาพ่อ

คำว่า ขี่กระบอง

สมัยโบราณยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านจะใช้ขี้กะบองส่องไฟ

หมายถึง

สมัยก่อนที่ยังไม่มีไฟฟ้า ชาวบ้านใช้ยางไม้จุดไฟ เพื่อส่องสว่าง

คำว่า ขอขมา

"ยามออกพรรษาพากันไปขอขมาจากพ่อใหญ่แม่ใหญ่เผิ่นจำศีลอยู่ศาลา"
ลักษญะการขอโทษ ทั้งกาย(กายกรรม) วาจา(วจีกรรม) ใจ(มะโนกรรม)ที่ล่วงเกินทั้งเจตนาและไม่เจตนา ต่อหน้าและลับหลังจะพีธีนี้จะเห็นบ่อยเวลาออกพรรษา ประกอบพานดอกไม้ธูปเทียน หรือบางครั่งเมื่อ พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย หรือญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือเสียชีวิต ลูกหลาน ญาติๆจะขอขมาก่อนเคลื่อนศพออกไปวัดหรือสู่เมรุ