ประโยคสนทนาภาษาอีสาน 576 - 585 จาก 2286

คำว่า บักหวดข่า

บักหวดข่า เป็นชื่อที่ชาวอีสานเรียก หรือ มะหวด ในภาษากลาง

คำว่า หัวบ่คืน

จังแม่นหัวคักหัวแหน่เนาะ กูว่าแม่นสิหัวบ่คืน แปลว่า หัวเราะจึงจังมาก กูนึกว่าจะหยุดหัวเราะไม่ได้

คำว่า เว่าดู๋

อย่าเว่าดู๋หลายกูอยากไล่ แปลว่า อย่าพูดมากนักกูรำคาญ

เจ้าคือเว่าดู๋แท้ แปลว่า ทำไมคุณพูดมากจัง

เว่าดู๋ปานนี้เจ้าบ่เมื่อยเบาะ แปลว่า พูดเยอะขนาดนี้ไม่เหนื่อยหรอ

คำว่า ตอนได๋

อ้ายสินอนตอนได๋ แปลว่า พี่จะนอนตอนไหน

ตอนได๋เจ้าสิไปนอน แปลว่า เมื่อไหร่คุณจะไปนอน

กินเข่าตอนได๋ แปลว่า กินข้าวตอนไหน

ตอนได๋สิเมือบ้าน แปลว่า เมื่อไหร่จะกลับบ้าน

ตอนได๋ หรือ ตอนใด๋ แปลว่า ตอนไหน , เมื่อไหร่ นั่นเอง

คำว่า บ่คือ

บ่คือ อย่าหาเฮ็ด แปลว่า ดูแล้วไม่เข้าท่า อย่าทำเลย
เบิ่งแล้วบ่คือปานได๋ แปลว่า ดูท่าทางแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดไว้เลย

คำว่า ทางดำ

ข่อยมีนาติดทางดำ แปลว่า ฉันมีที่นาติดถนนลาดยาง

ถึงอ้ายจะบ่หล่อ แต่นาอ้ายติดทางดำเด้ แปลว่า ถึงพี่จะไม่หล่อ แต่ที่นาพี่ติดทางดำนะ

ทางดำ ภาษาอีสาน หรือ ถนนลาดยาง
ถนนลาดยาง หรือ ทางดำ ในภาษาอีสาน
คำว่า พ่อว่อแพ่แว่

พ่อว่อแพ่แว่หลาย อยู่ซือ ๆ แน แปลว่า อย่าเดินไปนู่นไปนี่ อยู่เฉย ๆ ได้ไหม

คำว่า ยามใด๋สิแล้ว

เจ้าคือเฮ็ดโดนแท้ ยามใด๋สิแล้ว แปลว่า ทำไมทำนานจัง เมื่อไหร่จะเสร็จ

คำว่า เว้าแล้วกะไป๊

เว้าแล้วกะไป (พูดเสร็จแล้วก็ไป) เป็นคำพูดปิดท้ายหลังจากที่เราพูดเสร็จ แล้วต้องไปทำอย่างอื่นต่อ เป็นการบอกลา พูดเสร็จแล้วไปละ ประมาณนั้น

คำว่า คนพอกะเทิน

อ้ายมันคนพอกะเทิน กระโหลกกะลา บ่สมเจ้าดอก แปลว่า พี่มันคนกลาง ๆ ไม่เหมาะสมกับน้องหรอก จะเอาอะไรไปสู้