ประโยคสนทนาภาษาอีสาน 96 - 105 จาก 2286

คำว่า เบิ๊ด

แนวกินเบิดแล้ว  แปลว่า  อาหารหมดแล้ว

ค่อยๆแหน่ เดี๋ยวมันสิแตกเบิด  แปลว่า  ค่อยๆหน่อย เดี๋ยวก็แตกหมดกันพอดี 

คำว่า คือเก่า

เช่น บ่ว่าสิโดนปานใด๋ อ้ายกะฮักเจ้าคือเก่า แปลว่า ไม่ว่านานเท่าไหร่ พี่ก็รักน้องเหมือนเดิม

คำว่า จอบเบิ่ง

เช่น "อย่าไปหาจอบเบิ่งเขาเด้อ ระวังเขาสิไหมเอาเด้"

แปลว่า "อย่าไปแอบดูเขานะ เดี๋ยวจะโดนปรับไหม"

เป็นต้น

คำว่า ซะซาย

ใซ้ของแล้วบ่เก็บซะซายเต็มเฮือนอยู่  แปลว่า ใช้ของแล้วไม่รู้จักเก็บ วางกระจัดกระจายอยู่เต็มบ้านเลย

คำว่า ดังไฟ

เช่น ผู้ใด๋น้อ มาดังไฟฝิง คือบ่มอด

แปลว่า ใครมาก่อไฟไว้ผิง เสร็จแล้วไม่ยอมดับ

คำว่า ถิ่ม

เช่น ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน หมายถึง ไหนว่าจะไม่ทิ้งกัน

เช่น สิเทไห้บอกแน หมายถึง จะทิ้งน้องให้ก่อนกันหน่อย

คำว่า ตอด

เช่น

ระวังแมงงอดสิตอดเด้อ  แปลว่า  ระวังแมลงสัตว์กัดต่อย

คำว่า งุม

หาแนวมางุมไว้แหน่   แปลว่า  หาอะไรก้ได้ มาครอบไว้หน่อย

คำว่า หน้าแบ้

หึย ข่อยบ่มักลาวดอก หน้าคือแบ้หนิ  แปลว่า  ไม่ชอบเขาหรอก หน้าตาไม่ดี

อารมณ์เดียวกันกับ หน้าปลวก หน้าแพะ ส่วนคำว่าแบ้ในภาษาอีสาน หมายถึง "แพะ" สายพันธุ์เลล็ก นิยมเลี้ยงไว้เป็นอาหารในภาคอีสาน กินหญ้า และใบไม้เป็นอาหาร

"หน้าแบ้" ก็เลยถูกเอามาเปรียบเทียบกับคนที่ หน้าตาไม่ดี ไม่น่ามอง ไม่มีจุดเด่น อัปลักษณ์ ก็ว่า

คำอื่นๆ ที่มีความหมายเปรียบเปรยเหมือนกันเช่น "หน้าปลวก"  "หน้าแย้" เป็นต้น

หน้าแบ้

คำว่า ตื่ม

ผมบ่หลายให้ตื่มซ้อง พี่น้องบ่หลายให้ตื่มเสี่ยว แปลว่า ผมไม่ตกให้หาผมปลอมมาใส่ ญาติพี่น้องมีไม่มากให้หามิตรสหายมาเพิ่ม

ซอยกันตื่มเข้าไป สิได้หลาย ๆ แปลว่า ช่วยกันใส่เพิ่มเติมเข้าไป จะได้เยอะ ๆ